การใช้แอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลในการเรียนรู้
การใช้แอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ก้าวหน้าและมีประโยชน์อย่างมากในยุคปัจจุบัน เหล่านักเรียนและผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ นี่คือบางตัวอย่างของแอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลที่สามารถใช้ในการเรียนรู้
- แอปพลิเคชันการเรียนรู้ออนไลน์ มีหลายแอปพลิเคชันที่ให้บทเรียนและเนื้อหาการเรียนรู้ต่างๆ ได้แก่ Khan Academy, Coursera, edX และ Udemy เป็นต้น ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับหลายวิชาต่างๆ ได้ตามความสนใจและความต้องการของตนเอง
- เครื่องมือสร้างและแก้ไขเอกสาร ใช้เครื่องมือเช่น Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) หรือ Google Docs, Google Sheets, Google Slides เพื่อสร้างเอกสาร แก้ไข เรียงลำดับ และแบ่งปันงานที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น
- เครื่องมือวาดแผนภูมิและแผนที่ ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลเช่น Microsoft Excel, Google Sheets หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อสร้างแผนภูมิและแผนที่เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงข้อมูลในรูปแบบที่กระชับและง่ายต่อการเข้าใจ
- แอปพลิเคชันการอ่านและการเรียนรู้ มีแอปพลิเคชันเช่น Duolingo สำหรับการเรียนภาษา, Quizlet สำหรับการเรียนคำศัพท์, Elevate สำหรับการฝึกทักษะทางสมอง เป็นต้น ผู้เรียนสามารถใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ในการอ่านและการเรียนรู้
- เครื่องมือสื่อสารและการทำงานทีม มีเครื่องมือดิจิทัลหลายรูปแบบที่ช่วยในการสื่อสารและการทำงานทีม เช่น Slack, Microsoft Teams, Trello, และ Asana เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมและอาจารย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แอปพลิเคชันการจัดการเวลา เครื่องมือเช่น Google Calendar, Todoist, หรือ Any.do ช่วยให้ผู้เรียนสามารถจัดการเวลาและกำหนดกิจกรรมต่างๆ ในการเรียนรู้ และชีวิตประจำวันได้อย่างมีระเบียบ
- แอปพลิเคชันสื่อสารออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Teams, Skype เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ พูดคุยกับผู้สอนหรือผู้เรียนคนอื่น และแบ่งปันความคิดเห็นหรือความคิดเห็นในเวลาเดียวกัน
การใช้แอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ที่สะดวกสบายและน่าสนใจมากขึ้น
เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้
เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้มีหลากหลายตัวเลือกที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเครื่องมือดิจิทัลที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ได้แก่
- แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ เช่น Coursera, edX, Udacity, Khan Academy เป็นต้น แพลตฟอร์มเหล่านี้มีคอร์สเรียนที่ครอบคลุมหลากหลายวิชาที่สอดคล้องกับความสนใจและความต้องการของผู้เรียน มีการเรียนรู้แบบออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาและเพิ่มทักษะใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
- เครื่องมือสร้างเอกสารและนำเสนอ หลายๆ เครื่องมือทำงานดิจิทัลเช่น Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint), Google Docs, Google Sheets, Google Slides เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสร้างเอกสารที่สวยงามและมีความมั่นใจในการนำเสนอผลงาน
- แผนภูมิและกราฟิกดิจิทัล มีเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยสร้างแผนภูมิและกราฟิกต่างๆ เช่น Microsoft Excel, Google Sheets, Canva เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสร้างแผนภูมิที่สวยงามและชัดเจนเพื่อแสดงข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
- แอปพลิเคชันการอ่านและศึกษา ตัวอย่างเช่น Duolingo สำหรับการเรียนภาษา, Quizlet สำหรับการฝึกคำศัพท์, TED Talks เพื่อเรียนรู้และส่งเสริมความรู้ เป็นต้น ผู้เรียนสามารถใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้เพื่อฝึกทักษะและเรียนรู้เนื้อหาใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกและสนุกสนาน
- แอปพลิเคชันสื่อสารและการทำงานทีม เครื่องมือดิจิทัลเช่น Slack, Microsoft Teams, Trello, Asana เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมและครูอาจารย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการโปรเจกต์และงานทีมได้สะดวก
- แอปพลิเคชันการจัดการเวลาและกำหนดงาน เช่น Google Calendar, Todoist, Any.do เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวางแผนเวลาและจัดการงานที่ต้องทำในการเรียนรู้และชีวิตประจำวันได้อย่างมีระเบียบ
- แอปพลิเคชันสื่อสารออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Teams, Skype เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าร่วมการประชุมออนไลน์, พูดคุยกับผู้สอนหรือผู้เรียนคนอื่น และแบ่งปันความคิดเห็นหรือความคิดเห็นในเวลาเดียวกันได้
การใช้เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาทักษะในสมัยปัจจุบัน
เครื่องมือดิจิทัล คือ
เครื่องมือดิจิทัลคือเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลและการทำงานด้านดิจิทัล ซึ่งสามารถใช้ในการสร้าง แก้ไข และแสดงผลข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล อาทิเช่น การสร้างเอกสารดิจิทัล เช่นเอกสารข้อความ เอกสารสเปรดชีต หรืองานนำเสนอ การสร้างและแก้ไขภาพ วิดีโอ และเสียง การสร้างแผนที่ การประมวลผลข้อมูลทางสถิติ การเขียนโปรแกรม การสื่อสารออนไลน์ และอื่นๆ การใช้เครื่องมือดิจิทัลช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับในการทำงานและการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน
เครื่องมือดิจิทัล มีอะไรบ้าง
เครื่องมือดิจิทัลมีหลายประเภทและใช้สำหรับการทำงานและการปรับแต่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นี่คือบางตัวอย่างของเครื่องมือดิจิทัลที่พบได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน
- โปรแกรมแก้ไขภาพ เช่น Adobe Photoshop, GIMP, และ Pixlr ใช้ในการแก้ไขภาพถ่ายหรือภาพดิจิทัลเพื่อปรับปรุงคุณภาพ ปรับสี แก้ไขรูปร่าง ตัดต่อ หรือสร้างภาพใหม่ได้
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro, และ DaVinci Resolve ใช้ในการตัดต่อวิดีโอ ปรับปรุงคุณภาพ ใส่เอฟเฟกต์ และสร้างสรรค์ผลงานวิดีโอ
- โปรแกรมออกแบบกราฟิก เช่น Adobe Illustrator, CorelDRAW, และ Inkscape ใช้ในการสร้างกราฟิก ออกแบบโลโก้ เครื่องหมายการค้า ศิลปะดิจิทัล และงานออกแบบอื่นๆ
- โปรแกรมสร้างแบบจำลอง 3 มิติ เช่น Autodesk AutoCAD, Blender, และ SketchUp ใช้ในการสร้างแบบจำลองสามมิติ ออกแบบสถาปัตยกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือสร้างภาพที่สามารถเคลื่อนไหวได้
- โปรแกรมเขียนและจัดการเอกสาร เช่น Microsoft Word, Google Docs, และ Apple Pages ใช้ในการเขียนและจัดการเอกสาร สร้างสไลด์โชว์ หรือสร้างเอกสารอื่นๆ
- โปรแกรมการสร้างเว็บไซต์ เช่น WordPress, Wix, และ Joomla ใช้ในการสร้างและจัดการเว็บไซต์ ออกแบบหน้าเว็บ และสร้างเนื้อหา
- โปรแกรมการแก้ไขเสียง เช่น Audacity, Adobe Audition, และ GarageBand ใช้ในการแก้ไขเสียง บันทึกเสียง ตัดต่อเสียง หรือสร้างเพลง
- โปรแกรมการทำอนิเมชั่น เช่น Adobe Animate, Toon Boom, และ Blender ใช้ในการสร้างอนิเมชัน สร้างภาพเคลื่อนไหว และการ์ตูน
- โปรแกรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น Visual Studio, Eclipse, และ Xcode ใช้ในการเขียนและพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างแอปพลิเคชัน หรือเว็บแอปพลิเคชัน
- โปรแกรมการจัดการโปรเจค เช่น Trello, Asana, และ Basecamp ใช้ในการจัดการโปรเจค ติดตามความคืบหน้า และการทำงานร่วมกันในทีม
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเครื่องมือดิจิทัลที่พบได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง โดยเครื่องมือดิจิทัลสามารถแตกต่างกันไปตามความต้องการและสาขาอาชีพที่ใช้งาน
เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยจัดการข้อมูล ได้แก่
เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยในการจัดการข้อมูลมีหลายตัวเช่นกัน นี่คือบางตัวอย่างของเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยในการจัดการข้อมูล
- ฐานข้อมูล (Database) ระบบฐานข้อมูลช่วยในการเก็บรวบรวมและจัดการข้อมูล บางตัวอย่างเช่น MySQL, Microsoft SQL Server, Oracle Database, MongoDB และ PostgreSQL.
- เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Tools) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสกัดความหมาย การค้นหาแนวโน้ม และการสร้างรายงาน บางตัวอย่างเช่น Tableau, Power BI, Google Analytics และ Apache Hadoop.
- เครื่องมือการจัดการเอกสาร (Document Management Tools) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการจัดเก็บ จัดการ และควบคุมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการแชร์และการควบคุมรุ่นของเอกสาร บางตัวอย่างเช่น SharePoint, Google Drive, Dropbox และ Evernote.
- เครื่องมือการจัดการโปรเจกต์ (Project Management Tools) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการวางแผน จัดการ และติดตามความคืบหน้าของโปรเจกต์ รวมถึงการจัดการทรัพยากร ตารางงาน และการสื่อสารในทีมงาน บางตัวอย่างเช่น Trello, Asana, Jira และ Microsoft Project.
- เครื่องมือการจัดการความรู้ (Knowledge Management Tools) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการเก็บรวบรวมและจัดการความรู้ภายในองค์กร รวมถึงการแบ่งปันความรู้ บทความ และเอกสารอื่นๆ บางตัวอย่างเช่น Confluence, SharePoint, และ Slack.
- เครื่องมือการจัดการองค์กร (Enterprise Resource Planning Tools) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรและกระบวนการธุรกิจในองค์กร รวมถึงการจัดการฝ่ายการเงิน บัญชี การผลิต และการจัดการสต๊อกสินค้า บางตัวอย่างเช่น SAP, Oracle ERP, Microsoft Dynamics และ NetSuite.
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยในการจัดการข้อมูล มีอีกหลายตัวอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึง ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานขององค์กร หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
การรู้ดิจิทัล มีอะไรบ้าง
การรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) เป็นการมีความรู้และทักษะในการใช้และเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้และประยุกต์ใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ในการทำงาน การเรียนรู้ การสื่อสาร และการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิผล นี่คือบางองค์ประกอบหลักของการรู้ดิจิทัล
- การเข้าถึงและการใช้งานอินเทอร์เน็ต การรู้และเข้าถึงอินเทอร์เน็ต การค้นหาข้อมูล การใช้เว็บบราวเซอร์ การสื่อสารผ่านอีเมล การใช้งานโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
- การค้นหาและการประมวลผลข้อมูล การรู้จักวิธีการค้นหาข้อมูลในโลกดิจิทัล การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณค่า
- การอ่านและการเขียนออนไลน์ การอ่านและเขียนเนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ การเขียนบทความ เรียนรู้การใช้สื่อแบบดิจิทัล เป็นต้น
- การความสามารถในการใช้โปรแกรมและแอปพลิเคชัน การเข้าใช้และการประยุกต์ใช้โปรแกรมและแอปพลิเคชันต่างๆ เช่นโปรแกรมการสร้างสไลด์ โปรแกรมการแก้ไขภาพ แอปพลิเคชันการจัดการงาน เป็นต้น
- การความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ออนไลน์ การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ การสื่อสารผ่านแชท การใช้โซเชียลมีเดีย เป็นต้น
- การความสามารถในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ การรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยออนไลน์ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
- การคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยี การพัฒนาทักษะในการคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และการวางแผนโดยใช้เครื่องมือดิจิทัลเช่นการใช้โปรแกรมแก้ไขวิดีโอ การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น
การรู้ดิจิทัลเป็นทักษะที่สำคัญในสมัยปัจจุบัน เพื่อให้สามารถเข้าร่วมในสังคมและตลาดแรงงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแท้จริง
การพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีทั้งหมดกี่ขั้นตอน
การพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้มีขั้นตอนที่กำหนดไว้เป็นที่แน่นอน แต่มักจะประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
- การรู้ความสำคัญและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล เข้าใจถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการทำงาน รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- การศึกษาและการเรียนรู้ ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่สนใจ สามารถใช้ช่องทางต่างๆ เช่นคอร์สออนไลน์ คอมมูนิตี้ หรือการเรียนรู้เองได้
- การปฏิบัติและการใช้งาน ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติและใช้งานจริง ตั้งแต่การใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้โปรแกรมและแอปพลิเคชัน เป็นต้น
- การสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้ สามารถใช้ทักษะทางดิจิทัลในการสร้างสรรค์เนื้อหา ผลิตภัณฑ์ หรือการแก้ไขปัญหา อาจเป็นการสร้างเว็บไซต์ ออกแบบกราฟิก หรือพัฒนาแอปพลิเคชัน
- การปรับปรุงและการต่อยอด การสะท้อนประสบการณ์และการปรับปรุงทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในสาขาที่เกี่ยวข้อง
การพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกระบวนการที่ต้องอัพเดทและปรับปรุงตลอดเวลา เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเทคนิคใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้นอยู่เสมอ
เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา มีอะไรบ้าง
เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษามีหลายตัวเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์ในการสนับสนุนการเรียนรู้และการสอน นี่คือบางตัวอย่างของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้ในการศึกษา
- แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ (Online Learning Platforms) เช่น Coursera, edX, Udemy, Khan Academy ฯลฯ ที่มีคอร์สออนไลน์ที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาตามความสะดวก
- เครื่องมือสร้างเนื้อหาการศึกษา (Educational Content Creation Tools) เช่น PowerPoint, Prezi, Canva ใช้สร้างเนื้อหาการสอนและงานนำเสนอที่สร้างสรรค์
- แพลตฟอร์มการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน (Collaboration and Communication Platforms) เช่น Google Classroom, Microsoft Teams, Slack ใช้ในการสื่อสาร แบ่งปันข้อมูล และการทำงานร่วมกันในรูปแบบออนไลน์
- แอปพลิเคชันการเรียนรู้แบบแอพมือถือ (Mobile Learning Apps) เช่น Duolingo, Quizlet, TED ใช้ในการเรียนรู้และฝึกทักษะผ่านอุปกรณ์มือถือ
- เครื่องมือสร้างและแก้ไขวิดีโอการสอน (Educational Video Creation and Editing Tools) เช่น Camtasia, iMovie, Adobe Premiere Pro ใช้สร้างและแก้ไขวิดีโอการสอนและเนื้อหาการศึกษา
- แพลตฟอร์มการทดลองเสมือนจริง (Virtual Lab Platforms) เช่น Labster, PhET Interactive Simulations ใช้ในการทดลองและศึกษาผ่านการจำลองเสมือนจริง
- เครื่องมือสร้างแบบทดสอบออนไลน์ (Online Quiz and Assessment Tools) เช่น Google Forms, Kahoot, Quizizz ใช้ในการสร้างแบบทดสอบและการประเมินผลออนไลน์
- แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบเรียลไทม์ (Real-time Learning Platforms) เช่น Padlet, Nearpod, Mentimeter ใช้ในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบเรียลไทม์ที่มีความปฏิสัมพันธ์
- เครื่องมือการจัดการเอกสารและงาน (Document and Project Management Tools) เช่น Google Docs, Microsoft OneNote, Trello ใช้ในการจัดการเอกสารและโปรเจกต์การเรียนรู้
- เทคโนโลยีเสมือนจริงและเกมการศึกษา (Virtual Reality and Educational Games) เช่น Google Expeditions, Minecraft Education Edition ใช้ในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีอิทธิพลและน่าสนุก
เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษามีหลากหลายและเป็นที่กำลังสนใจในวงกว้าง เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรในสมัยปัจจุบัน
ทักษะการรู้ดิจิทัล คือ
ทักษะการรู้ดิจิทัล (Digital Literacy Skills) คือ ความสามารถในการเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงความรู้ ทักษะ และความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการเข้าถึง สื่อสาร และการจัดการข้อมูลในสภาพแวดล้อมดิจิทัล ซึ่งสามารถแบ่งเป็นหลายประเภทตามความสำคัญและศักยภาพในการประยุกต์ใช้ นี่คือบางทักษะการรู้ดิจิทัลที่สำคัญ
- การค้นหาข้อมูล (Information Search) การรู้จักและใช้เครื่องมือการค้นหาออนไลน์ เช่นการใช้เว็บค้นหา การใช้ระบบคลังข้อมูลออนไลน์ เพื่อหาข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ
- การประเมินข้อมูล (Information Evaluation) การวิเคราะห์และประเมินคุณภาพข้อมูลที่พบออนไลน์ เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง และความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูล
- การเข้าถึงและการใช้เครื่องมือดิจิทัล (Digital Access and Usage) การเข้าถึงและการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล เช่นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น รวมถึงการใช้โปรแกรมและแอปพลิเคชันต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
- การสร้างเนื้อหาดิจิทัล (Digital Content Creation) การใช้เครื่องมือสร้างเนื้อหาดิจิทัล เช่นการสร้างภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ โปสเตอร์ หรือแผนภาพ เพื่อสร้างสื่อการสื่อสารและการแสดงข้อมูล
- การสื่อสารออนไลน์ (Online Communication) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสื่อสาร อาทิเช่นการสื่อสารผ่านอีเมล การใช้แชทหรือแชทบอท การสร้างและการเข้าร่วมกลุ่มออนไลน์ เป็นต้น
- การรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยออนไลน์ (Online Safety Awareness) การรู้และปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่นการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล การรู้เทคนิคการป้องกันการฟิชชิ่ง (Phishing) และการป้องกันการโจมตีในเครือข่าย (Network Security)
ทักษะการรู้ดิจิทัลเป็นทักษะที่สำคัญในสมัยปัจจุบัน เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์และสร้างผลผลิตที่มีคุณค่าแก่ตัวเองและสังคมโดยรวม