🛞 วิธีดูยางรถยนต์: เคล็ดลับเลือกยางให้ปลอดภัยทุกเส้นทาง
อัปเดตความรู้ก่อนเปลี่ยนยาง ด้วยเทคนิคดูยางรถยนต์แบบมือโปร!
🚗 ทำไมการ ดูยางรถยนต์ จึงสำคัญ?
ยางรถยนต์คือ จุดสัมผัสเดียว ระหว่างรถกับพื้นถนน การละเลยที่จะตรวจสอบยางอาจนำไปสู่ อุบัติเหตุร้ายแรง หรือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ขับมือใหม่หรือผู้ใช้รถเป็นประจำ การรู้ วิธีดูยางรถยนต์ ถือเป็น พื้นฐานสำคัญ ที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง
🔍 วิธีดูยางรถยนต์ให้เป็นใน 5 ขั้นตอนง่ายๆ
1. ดูอายุยาง (Date Code)
ที่ขอบยางจะมีรหัส 4 หลัก เช่น “3023” หมายถึง ผลิตสัปดาห์ที่ 30 ของปี 2023
แนะนำให้เปลี่ยนยางทุก 3-5 ปี แม้ว่ายังไม่สึกหรอก็ตาม เพราะ ยางเก่าอาจแข็งและแตกได้ง่าย
2. เช็กความลึกของดอกยาง (Tread Depth)
หากดอกยางต่ำกว่า 1.6 มม. แสดงว่า ถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว!
ใช้เหรียญบาทเสียบตรงร่องดอกยาง ถ้ามองเห็นพระเกศาชัด = ยางบางเกินไป
3. ตรวจหารอยร้าว บวม แตก (Sidewall Damage)
มองหาสัญญาณของ รอยปริ รอยแตก หรือบวมที่แก้มยาง ซึ่งอาจเกิดจากตกหลุมหรือบรรทุกหนัก
4. ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure)
ลมยางควรอยู่ในช่วงที่ผู้ผลิตแนะนำ (ดูที่ขอบประตูคนขับหรือคู่มือรถ)
ลมยางอ่อนเกินไปทำให้กินน้ำมัน ส่วนลมแข็งเกินไปทำให้ยางสึกเร็ว
5. ดูสภาพการสึกของยาง (Uneven Wear)
หากยางสึกด้านใดด้านหนึ่ง อาจแปลว่า ศูนย์ล้อไม่ตรง หรือ โช้คอัพเสื่อมสภาพ
🛡️ เคล็ดลับการดูแลยางให้ใช้งานได้นาน
-
หมุนสลับยาง ทุก 10,000 กม.
-
ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ ทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง
-
ตรวจเช็กลมยางประจำเดือน
📎 ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
ตรวจสอบมาตรฐานยางรถยนต์และคำแนะนำจาก กรมการขนส่งทางบก ได้ที่
https://www.dlt.go.th
❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ยางรถยนต์ใหม่ต้องดูอะไรบ้างก่อนซื้อ?
A: ควรดู ปีที่ผลิต, ขนาดยาง, ยี่ห้อ, ลายดอก, และ ประเภทการใช้งาน ให้เหมาะกับรถและเส้นทาง
Q: ยางมีอายุกี่ปีถึงจะเปลี่ยน แม้ยังไม่สึก?
A: แม้จะไม่สึก แต่ยางที่มีอายุ เกิน 5 ปี ควรเปลี่ยนทันที เพราะเนื้อยางเสื่อมสภาพ
Q: วิธีเช็กลมยางด้วยตัวเองทำได้ไหม?
A: ได้! ใช้เกจวัดลมยางแบบพกพา หรือเช็กฟรีได้ที่ปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ