ระบบสารสนเทศบัญชี

ระบบสารสนเทศ ทางการบัญชีของบริษัทพัฒนาประกอบกันด้วย 3 ระบบ?

ระบบสารสนเทศ

ระบบสารสนเทศทางการบัญชี  Accounting Information System

ระบบหมายถึงกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ 2 กิจกรรมขึ้นไปมาประกอบกันโดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน และเป็นระบบการทำงานหนึ่งที่นำนโยบาย ทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประกอบกันโดยเน้นการใช้ประโยชน์ทางการบัญชีที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจและมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจดังนี้

  1. การเก็บบันทึกรายการที่เกิดขึ้นของธุรกิจ
  2. การประมวลผลข้อมูลให้ได้สารสนเทศที่มีประโยชน์ต่อการวางแผน การสั่งการ และการควบคุม
  3. การควบคุมสินทรัพย์ (รวมถึงสารสนเทศ) ของธุรกิจให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มานั้นถูกต้องและเชื่อถือได้

ระบบสารสนเทศ

วัตถุประสงค์ของการบัญชีก็คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลทางการบัญชีและการเงินของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งไว้เพื่อแสดงให้แก่ผู้สนใจ เช่น พนักงาน ฝ่ายบริหาร นักลงทุน เจ้าหนี้ รัฐบาล เป็นต้นพนักงานจำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางการบัญชีเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยดี ฝ่ายบริหารจะใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินงานในปัจจุบันเพื่อวางแผนในอนาคต นักลงทุนจะตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน เจ้าหนี้จะใช้ข้อมูลในการพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้เพื่อตัดสินใจให้สินเชื่อรัฐบาลโดยกรมสรรพากรใช้เป็นหลักในการจัดเก็บภาษี นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อธุรกิจนั้นๆดังจะเห็นได้ว่าหากธุรกิจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลทางการบัญชีอย่างเป็นระบบที่ดีแล้วย่อมสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการตัดสินใจทางการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง

ระบบสารสนเทศทางการบัญชี จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรวบรวมข้อมูลทางการบัญชีเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ความถูกต้อง ตรวจสอบ จัดหาข้อมูลสำหรับตัดสินใจ จัดสร้างระบบสารสนเทศบัญชีบริหาร เตรียมข้อมูลทางการเงินให้นักลงทุน และการตัดสินใจต่างๆ แต่ความต้องการในการใช้งานนั้นมีความหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับลักษณะการดำเนินธุรกิจ เช่น ธุรกิจผลิตสินค้า กับ ธุรกิจบริการ จะกำหนดความสามารถของระบบสารสนเทศทางการบัญชีต่างกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ระบบสารสนเทศทางการบัญชีที่ผลิตขึ้น ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง ธุรกิจแต่ละประเภท ก็ย่อมมีความต้องการในความสามารถพื้นฐานของระบบสารสนเทศทางการบัญชีไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจนำระบบสารสนเทศทางการบัญชีมาใช้อีก เช่น งบประมาณ ขนาดของธุรกิจ เทคโนโลยี การบริการ แผนธุรกิจ เป็นต้น

ระบบสารสนเทศ บัญชีการบัญชี มีความหมายเป็นระบบสารสนเทศระบบหนึ่งที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของการบัญชี คือการนำสารสนเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้น คณะกรรมาธิการด้านการศึกษาวิชาการบัญชี ยังแนะนำให้มหาวิทยาลัยหลายๆแห่งที่เปิดสอนวิชาการบัญชี ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาระบบ ระบบเครือข่ายการสื่อสาร หลักสูตร วิชาการบัญชีที่ดีควรออกแบบหลักสูตรให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการที่สำคัญ 3 หลักการคือ

  1. การนำสารสนเทศไปใช้ในการตัดสินใจ
  2. ลักษณะ การออกแบบ การใช้งาน และการนำระบบสารสนเทศทางการบัญชีไปใช้จริง
  3. การรายงานงบการเงิน

โดยทั่วไปหลักสูตรวิชาการบัญชี จะเป็นหลักสูตรที่สร้างนักบัญชีให้เป็นผู้จัดเตรียมข้อมูล หรือรายงานผลการดำเนินงาน และกำหนดให้เรียนวิชาบัญชีการเงิน บัญชีบริหาร ภาษีอากร และการสอบบัญชี ซึ่งเป็นรายวิชาบังคับของหลักสูตรบัญชีในมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่หลักสูตรระบบสารสนเทศทางการบัญชี จะเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจถึงระบบบัญชีตั้งแต่เรีมมีการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบว่า มีขั้นตอนการทำงานในระบบคอมพิวเตอร์อย่างไร การประมวลผลข้อมูลไปเป็นสารสนเทศเพื่อผู้บริหารทำอย่างไร และเชื่อถือสารสนเทศที่ได้ว่าถูกต้องหรือไม่

จะเห็นได้ว่าในธุรกิจหนึ่งๆประกอบด้วยระบบย่อยหลายระบบ เช่นระบบสารสนเทศการขายและการตลาด ระบบสารสนเทศการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ระบบสารสนเทศทางการบัญชี ระบบสารสนเทศการผลิต ระบบสารสนเทศการเงิน ซึ่งระบบสารสนเทศทางการบัญชีให้ความสำคัญกับความถูกต้อง เชื่อถือได้ และการควบคุมอย่างเพียงพอ เพราะในธุรกิจขนาดใหญ่นั้นผู้จัดการไม่ได้เป็นเจ้าของ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจึงต้องมีระบบเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ผู้บริหารได้รักษาสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์ในธุรกิจ

หน้าที่ความรับผิดชอบ

หน้าที่ความรับผิดชอบของนักบัญชีที่สำคัญที่ธุรกิจต้องการ

  1. ระบบบัญชีและรายงานงบการเงิน
  2. วางแผนกลยุทธ์ของธุรกิจในระยะยาว
  3. บริหารบัญชีการเงิน
  4. ที่ปรึกษาภายในของธุรกิจ
  5. จัดทำงบประมาณระยะสั้น
  6. วิเคราะห์งบการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจ
  7. พัฒนากระบวนการทำงาน
  8. ควบคุมระบบการทำงานคอมพิวเตอร์
  9. ประเมินผลประสิทธิภาพการทำงาน
  10. วิเคราะห์ลูกค้าและความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ

เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทในการบัญชีการเงินและการดำเนินธุรกิจอย่างมาก และยังคงมีอิทธิพลต่อไปในอนาคต เทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้พัฒนาขึ้นจะมีผลกระทบกับระบบสารสนเทศทางการบัญชีซึ่งได้มีการพัฒนาระบบเครือข่ายให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงาน ติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ ระบบสารสนเทศทางการบัญชีจึงเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยแบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบในแต่ละงานออกจากกัน และเพิ่มการควบคุม การตรวจสอบ จนก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีอินเตอร์เนท ระบบสารสนเทศทางการบัญชีก็พัฒนาโดยสามารถบันทึกรายการ การปรับปรุงข้อมูล การเรียกดูข้อมูล ผ่านเครือข่าย อินเตอร์เน็ตทันทีทันใด

เทคโนโลยีสารสนเทศ

ส่วนกลยุทธก็มีผลต่อการออกแบบระบบสารสนเทศทางการบัญชีด้วย เช่น ธุรกิจจำหน่ายสินค้าเลือกใช้กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่สุด สามารถนำระบบสารสนเทศทางการบัญชีมาประยุกต์ใช้ทางการบริหารต้นทุนการจัดซื้อ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการกำหนดกลยุทธ์ของธุรกิจนั้น บางธุรกิจลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสารสนเทศทางการบัญชีสูง เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจ แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสารสนเทศทางการบัญชีมากนัก เพราะจะให้ความสำคัญกับกระบวนการตัดสินใจที่ต้องอาศัยความเข้าใจนักบัญชี และผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีสารสนเทศในการกำหนดกลยุทธ์ของธุรกิจมากกว่า ดังนั้นระบบสารสนเทศทางการบัญชี จึงทำหน้าที่เป็นเครื่องมือให้ข้อมูลสำหรับกระบวนการตัดสินใจของผู้บริหารที่ต้องการสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ตั้งแต่กำหนดปัญหา การเลือกวิธีการรับปัญหา การเก็บข้อมูล และการแก้ไขปัญหา อย่างเชื่อถือได้ ครบถ้วน ทันสมัย เข้าใจได้ และตรวจสอบความถูกต้องได้

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com

บทความแนะนำ หมวดหมู่: เศรษฐกิจ
จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 158922: 88