คำอาราธนาธรรม

5 ห้าม ศีล คำอาราธนาธรรมพระปริตรมีคำเริ่มต้นอย่างไร?

คำอาราธนาธรรม

คำอาราธนาธรรม (พร้อมคำแปล)

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า “อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง” และลงท้ายว่า “ยาจามิ”)

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

คำสาธุการเมื่อพระเทศน์จบ

(เมื่อพระแสดงธรรมจบ ให้รับสาธุการพร้อมกัน)

สาธุ พุทธะสุโพธิตา
-สาธุ ความตรัสรู้ดีจริงของพระพุทธเจ้า

สาธุ ธัมมะสุธัมมะตา
-สาธุ ความเป็นธรรมจริงของพระธรรม

สาธุ สังฆัสสุปะฏิปัตติ
-สาธุ ความปฏิบัติดีจริงของพระสงฆ์

อะโห พุทโธ
-พระพุทธเจ้า น่าอัศจรรย์จริง

อะโห ธัมโม
-พระธรรมเจ้า น่าอัศจรรย์จริง

อะโห สังโฆ
-พระสงฆเจ้า น่าอัศจรรย์จริง

อะหัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะ โต (หญิง เปลี่ยน โต เป็น ตา)
-ข้าพเจ้าถึงแล้ว ซึ่งพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึง

อุปาสะกัตตัง เทเสสิง ภิกขุสังฆัสสะ สัมมุขา (หญิง เปลี่ยน อุปาสะ เป็น อุปาสิ)
-ข้าพเจ้าขอแสดงตน ว่าเป็นอุบาสก(อุบาสิกา) ในที่จำเพาะหน้าพระภิกษุสงฆ์

เอตัง เม สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง 
-พระรัตนตรัยนี้ เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าอันเกษม พระรัตนตรัยนี้ เป็นที่พึ่งอันสูงสุด

เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะเย 
-เพราะอาศัยพระรัตนตรัยนี้ เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าพึงพ้นจากทุกข์

ยะถาพะลัง จะเรยยาหัง สัมมาสัมพุทธะสาสะนัง 
-ข้าพเจ้าจักประพฤติ ซึ่งพระธรรมคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยสมควรแก่กำลัง

ทุกขะนิสสะระณัสเสวะ ภาคี อัสสัง อะนาคะเต ฯ (หญิง ภาคี อัสสัง เปลี่ยนเป็น ภาคินิสสัง)
-ข้าพเจ้าพึงมีส่วนแห่งพระนิพพาน อันเป็นที่ยกตนออกจากทุกข์ ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้น เทอญฯ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต   โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ

ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
โอปะนะยิโก   ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ

(พระสงฆ์ให้พร เป็นอันเสร็จพิธี)

ขอบคุณที่มา:watpamahachai.net

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com