ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์

ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ทำมาจากอะไรอินแคนเดสเซนต์ 4 ไส้

ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ทำมาจากอะไร

ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Light Bulb) ทำมาจากอะไรก็ขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่นของหลอดอินแคนเดสเซนต์ แต่ส่วนใหญ่มักใช้วัสดุที่เรียกว่า “ไฟลาเมนต์” (Filament) เป็นไส้หลอด ไฟลาเมนต์เป็นวัสดุที่สามารถทนความร้อนสูงและสร้างความร้อนในรูปของแสงสว่าง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไฟลาเมนต์ อันนี้ทำให้ไฟลาเมนต์เริ่มเปลี่ยนรูปร่างและปล่อยความร้อนและแสงออกมา.

เมื่อไฟลาเมนต์เริ่มถูกใช้งานและร้อนขึ้น มันจะแสดงพฤติกรรมของการแอบแสงเรียกว่า “อินแคนเดสเซนต์” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ก่อให้เกิดแสงสว่างจากความร้อนที่ไฟลาเมนต์สร้างขึ้น เนื่องจากไฟลาเมนต์เป็นวัสดุที่ไม่สามารถรักษาการเปลี่ยนรูปได้นาน เวลาผ่านไปหลอดอินแคนเดสเซนต์จะเริ่มมีช่วงเวลาในการใช้งานและจะเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ จนกว่าไฟลาเมนต์จะแตกและหลุดออกจากหลอด นั่นคือเหตุผลที่หลอดอินแคนเดสเซนต์มักมีอายุการใช้งานจำกัด.

โดยทั่วไปแล้วไฟลาเมนต์ในหลอดอินแคนเดสเซนต์ทำจากวัสดุที่เรียกว่า “ทังสเตน” (Tungsten) ซึ่งเป็นโลหะที่มีความทนทานต่อความร้อนสูงและเป็นตัวที่เหมาะสำหรับการสร้างแสงสว่างในหลอดอินแคนเดสเซนต์.

หลอดอินแคนเดสเซนต์ คือ

หลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Light Bulb) เป็นแหล่งแสงสว่างที่สร้างขึ้นโดยกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านไปผ่านไฟลาเมนต์ (Filament) ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถสร้างความร้อนและแสงสว่างเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน หลอดอินแคนเดสเซนต์ถือเป็นเทคโนโลยีการสร้างแสงสว่างแรกที่มีประโยชน์และได้รับการพัฒนาต่อยอดโดยนักวิทยาศาสตร์และผู้ประดิษฐ์ในอดีต.

โครงสร้างของหลอดอินแคนเดสเซนต์ประกอบด้วยหลายส่วนสำคัญ

  1. หลอดภายนอก (Envelope) ปกคลุมทั้งไฟลาเมนต์และอลูมิเนียมเนื้อแบบที่เป็นท่อที่มีส่วนเปิดบนสุดเพื่อให้แสงสามารถออกมาได้.

  2. ไฟลาเมนต์ (Filament) คือส่วนที่สร้างความร้อนและแสงสว่างเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ส่วนใหญ่ใช้วัสดุทังสเตน (Tungsten) เนื่องจากมีความทนทานต่อความร้อนสูง.

  3. แก้ววางไฟลาเมนต์ (Support and Mounting) ใช้ในการยึดไฟลาเมนต์และช่วยรองรับโครงสร้างหลอด.

  4. ก๊าซกระจาย (Inert Gas) หลอดภายในมีก๊าซอากาศเพื่อช่วยในกระบวนการทำให้ไฟลาเมนต์สูงอุณหภูมิและแม้แต่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของไฟลาเมนต์.

เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไฟลาเมนต์ จะเกิดการจ่ายพลังงานให้กับไฟลาเมนต์ ซึ่งทำให้ไฟลาเมนต์ร้อนขึ้น และเมื่อไฟลาเมนต์ร้อนขึ้นมากพอ จะส่งผลให้ไฟลาเมนต์แผ่ร่วมกับกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดกระบวนการอินแคนเดสเซนต์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไฟลาเมนต์สร้างความร้อนและแสงสว่างจากการเผาผลาญตนเองเมื่ออยู่ในสภาวะร้อนจนถึงจุดเดือด.

เทคโนโลยีหลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นที่นิยมในอดีต แต่เนื่องจากมีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานเป็นแสงที่ต่ำ และส่งผลให้เกิดการสูญเสียพลังงานความร้อนมาก การใช้งานหลอดอินแคนเดสเซนต์ส่งผลให้เกิดประโยชน์น้อยต่อสิ่งแวดล้อมและความประหยัดพลังงาน การพัฒนาและนวัตกรรมในการสร้างแสงสว่างได้นำไปสู่การพัฒนาหลอดไฟที่มีประสิทธิภาพและทนทานมากขึ้น เช่น หลอดคมประหยัดพลังงานแบบ LED (Light Emitting Diode) ที่ใช้งานประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่า.

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com

บทความแนะนำ หมวดหมู่: ไลฟ์สไตล์
จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 203802: 82