วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไทรอยด์ ต่ำโรคห้ามกินเป็นพิษที่ 3 กิน?
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคไทรอยด์ (Thyroid disease) ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคไทรอยด์ที่คุณเป็น เช่น ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) หรือ ไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism) ซึ่งมีวิธีดูแลตัวเองที่แตกต่างกันเล็กน้อย นี่คือคำแนะนำทั่วไปสำหรับการดูแลตัวเองในทั้งสองกรณี
- สำหรับไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism)
ไฮโปไทรอยด์คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ไม่เพียงพอ วิธีดูแลตัวเองมีดังนี้
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยทั่วไปแพทย์จะสั่งยาไทรอยด์ฮอร์โมน (Levothyroxine) เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ขาดหาย ควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกวัน
- ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากการเผาผลาญช้าลง ควรใส่ใจในการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ทานอาหารที่เหมาะสม ควรทานอาหารที่มีสารไอโอดีนและซีลีเนียมซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์ เช่น อาหารทะเล ปลา สาหร่าย
- หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด บางครั้งการบริโภคอาหารที่มีสารโกทริน (Goitrogens) เช่น กะหล่ำปลี ผักบร็อคโคลี และถั่วเหลือง อาจขัดขวางการดูดซึมฮอร์โมนไทรอยด์
- สำหรับไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism)
ไฮเปอร์ไทรอยด์คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป วิธีดูแลตัวเองมีดังนี้
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง แพทย์อาจสั่งยาเพื่อยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์หรือยากดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล และสาหร่าย ซึ่งอาจเพิ่มระดับฮอร์โมนไทรอยด์
- ควบคุมอาการด้วยการลดคาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ และชาเขียว อาจกระตุ้นอาการใจสั่น
- จัดการความเครียด ความเครียดสามารถกระตุ้นอาการของโรคไทรอยด์ได้ ควรฝึกการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือโยคะ
- การดูแลทั่วไปสำหรับผู้ป่วยโรคไทรอยด์ทุกประเภท
- พบแพทย์สม่ำเสมอ เพื่อติดตามการรักษาและปรับปริมาณยา
- พักผ่อนเพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญและปรับปรุงสุขภาพทั่วไป
- ติดตามอาการ หากมีอาการใหม่หรืออาการที่มีอยู่อย่างรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์
การดูแลตัวเองที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนและทำให้ชีวิตประจำวันดีขึ้นค่ะ
บทความแนะนำ หมวดหมู่: ไลฟ์สไตล์
จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 217698: 1095