ประเทศในทวีปเอเชียที่ประสบภัยแล้งมากที่สุดในปี 2558
ภัยแล้ง เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้ง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะใน ทวีปเอเชีย ซึ่งมีภูมิอากาศหลากหลายและประชากรหนาแน่น ปี 2558 เป็นปีที่ภูมิภาคนี้เผชิญกับ ภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้หลายประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการ ทรัพยากรน้ำ และ เกษตรกรรม
สถานการณ์ภัยแล้งในเอเชีย ปี 2558
ปี 2558 เป็นปีที่ ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) มีอิทธิพลสูง ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นและฝนตกน้อยลงในหลายพื้นที่ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) รายงานว่าภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบมากที่สุด ตัวอย่างเช่น
- อินเดีย: การเกษตรซึ่งต้องพึ่งพาน้ำฝนมากถึง 60% ได้รับผลกระทบหนัก ฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 14%
- ไทย: พื้นที่ปลูกข้าวแถบภาคกลางและภาคอีสานเสียหาย เนื่องจากเขื่อนหลักหลายแห่งมีน้ำในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ประเทศที่ประสบภัยแล้งรุนแรงที่สุดในปี 2558
- อินเดีย:
- ประเทศที่มี ประชากรพึ่งพาเกษตรกรรม จำนวนมาก รัฐมหาราษฏระ และ อุตตรประเทศ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด โดยมีการ อพยพประชากรจำนวนมาก ออกจากพื้นที่ที่ไม่มีน้ำเพียงพอ
- ตัวอย่าง: ชาวนาในรัฐอานธรประเทศต้องเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกข้าวไปสู่การทำงานในเมืองใหญ่
- ไทย:
- ภัยแล้งในไทยปี 2558 ทำให้ ผลผลิตข้าวลดลงถึง 20% ส่งผลต่อเศรษฐกิจการส่งออก กรมชลประทาน ต้องประกาศให้เกษตรกรงดการทำนาปรังเพื่อประหยัดน้ำ
- ตัวอย่าง: ชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรีใช้ น้ำบาดาล เพื่อรดน้ำข้าวแทนการใช้น้ำจากคลองชลประทาน
ผลกระทบจากภัยแล้ง
ภัยแล้งในปี 2558 ไม่ได้ส่งผลเฉพาะกับเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบปัญหา แต่ยังสร้าง ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนี้:
- เศรษฐกิจ: ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้น เช่น ข้าวและน้ำตาล ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
- สังคม: การอพยพประชากรในชนบทเข้าสู่เมืองใหญ่ สร้างความแออัดและปัญหาในระบบสาธารณสุข
- สิ่งแวดล้อม: แหล่งน้ำธรรมชาติเช่น แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำ แห้งขอดจนเกิดปัญหาด้าน ความหลากหลายทางชีวภาพ
แนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากภัยแล้งในอนาคต หลายประเทศในเอเชียได้ดำเนินการมาตรการสำคัญ เช่น:
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานน้ำ: เช่น การสร้าง อ่างเก็บน้ำใหม่ ในไทยและอินเดีย
- การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน: ใช้เทคโนโลยี เช่น การชลประทานแบบหยดน้ำ เพื่อประหยัดน้ำในภาคเกษตรกรรม
- ความร่วมมือระดับนานาชาติ: เช่น การรับความช่วยเหลือจาก องค์กรสหประชาชาติ (UN) ในการพัฒนานโยบายด้านน้ำ
สรุป
ภัยแล้งในปี 2558 ถือเป็น บทเรียนสำคัญ สำหรับประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในด้านการจัดการ ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และการพัฒนานโยบายที่รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศในภูมิภาคนี้ยังคงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
อ้างอิง
สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการจัดการภัยแล้งในประเทศไทยได้ที่ กรมทรัพยากรน้ำ