
คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก — ประวัติและพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก
หากพูดถึง จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หลายคนอาจนึกถึงโน้ตบุ๊กหรือเดสก์ท็อปในปัจจุบัน แต่ความจริงแล้ว คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก เกิดขึ้นมานานหลายสิบปีก่อน โดยถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการคำนวณทางวิทยาศาสตร์และการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ประวัติของคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก
ENIAC (Electronic Numerical Integrator and Computer) คือชื่อของ คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรก ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1945 โดย John Presper Eckert และ John Mauchly แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จุดประสงค์หลักเพื่อคำนวณวิถีการยิงของกระสุนและจรวดให้แม่นยำมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้ ENIAC กลายเป็นนวัตกรรมปฏิวัติโลกคือ
-
ใช้ หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube) กว่า 17,000 หลอด
-
น้ำหนักมากกว่า 27 ตัน
-
ใช้พื้นที่กว่า 167 ตารางเมตร
-
สามารถคำนวณได้เร็วกว่ามนุษย์นับพันเท่า
แม้จะมีขนาดใหญ่และกินพลังงานสูง แต่ ENIAC คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาให้เล็กลง เร็วขึ้น และชาญฉลาดขึ้น จนกลายมาเป็น คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ที่เราใช้ในปัจจุบัน
ความสำคัญของคอมพิวเตอร์เครื่องแรก
-
ปูทางให้เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถพัฒนาไปสู่ระบบประมวลผลขั้นสูง
-
ใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนา คอมพิวเตอร์รุ่นถัดไป เช่น UNIVAC และ IBM
-
เป็นแรงบันดาลใจให้เกิด นวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ที่เราใช้ทุกวันนี้
เกร็ดน่ารู้
ก่อน ENIAC จะถือกำเนิด มีเครื่องจักรกลคำนวณรุ่นแรกๆ อย่าง เครื่อง Analytical Engine ของ Charles Babbage และ เครื่อง Z3 ของ Konrad Zuse ซึ่งถือเป็นต้นแบบแนวคิดของคอมพิวเตอร์ดิจิทัล
หากสนใจข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มเติม สามารถศึกษาจากหน่วยงานรัฐด้านดิจิทัล เช่น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)
Q&A ที่เกี่ยวข้อง
Q: ENIAC สามารถเก็บข้อมูลได้เหมือนคอมพิวเตอร์ปัจจุบันหรือไม่?
A: ไม่ได้ เพราะ ENIAC ไม่มีหน่วยความจำแบบ RAM หรือ Hard Disk อย่างที่เราใช้ในปัจจุบัน ข้อมูลต้องป้อนด้วยสวิตช์และสายไฟโดยตรง
Q: ทำไม ENIAC ถึงใช้พลังงานสูงมาก?
A: เนื่องจากใช้หลอดสุญญากาศจำนวนมหาศาล ซึ่งกินไฟและปล่อยความร้อนสูง ทำให้ต้องใช้ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่








