ข้อดีข้อเสียหจก COMPARE บริษัท 5 เสียภาษีนิติบุคคลเท่าไหร่
ข้อดีข้อเสียระหว่าง หจก กับ บริษัทคืออะไร และเสียภาษีต่างกันอย่างไร? หจกต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และข้อดีข้อเสียระหว่างบุคคลธรรมดากับนิติบุคคลเป็นอย่างไร? มี
วิธีการจดทะเบียนบริษัท กับสิ่งที่ควรรู้ ก่อนการจดทะเบียนบริษัท
รูปแบบของการดำเนินธุรกิจ การประกอบธุรกิจ การค้าอาจดำเนินการได้หลายรูปแบบ ทั้งโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลำพัง หรืออาจดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเป็นกลุ่มคณะก็ได้ การที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินธุรกิจการค้าในรูปแบบใดนั้น ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเร็จนำมาซึ่งผล ประโยชน์และกำไรสูงสุด
คุณสามารถ จดทะเบียนบริษัท ได้ด้วยตัวเอง
รูปแบบองค์กรธุรกิจ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.เป็นนิติบุคคล (จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย)
2.องค์กรธุรกิจจัดตั้งหรือจดทะเบียนภายใต้กฎหมายเฉพาะ
คำถามที่ทุกคนถามบ่อยๆ “หจก ต่างจาก บริษัท ตรงไหน”
หลายๆคน ที่จะเริ่มประกอบธุรกิจ มักจะตั้งคำถามอยู่เสมอ และมักจะไม่ค่อยได้รับคำตอบที่โดนใจ ว่าจะเลือกแบบไหนดี แต่ในครั้งนี้ อาจแนะนำว่า หากท่านต้องการประกอบธุรกิจจริงๆ ต้องถามกับตัวเองว่าต้องการทำระยะสั้นหรือระยะยาว หากต้องการลองทำดู ก็จะแนะนำให้จดเป็นหจก. แต่ถ้าหากต้องการทำระยะยาวก็เปิดเป็นบริษัทฯ เหตุที่แนะนำเช่นนั้นก็เพราะ ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะสูงกว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด
การจดทะเบียนบริษัท อาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ เพราะไมรู้ว่าขั้นตอนการดำเนินการ อีกทั้งยังมีการเตรียมเอกสารหลายอย่างที่ยุ่งยาก หากจัดเตรียมเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้เสียเวลาเข้าไปติดต่อในวันหลัง
หากไม่สะดวก หรือไม่มีความรู้ในการจดทะเบียนบริษัท ควรจ้างบริษัทที่รับจดทะเบียนบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการแทนจะดีกว่า อาจจะมีค่าบริการบ้างแต่ก็ถือว่าว่าคุ้มค่ากับที่ไม่ต้องเสียเวลา ได้เอกสารจดทะเบียนที่ถูกต้อง รวดเร็ว แต่ก็ควรเลือกบริษัทรับจดทะเบียนบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ดำเนินธุรกิจมานานยิ่งดี ยิ่งเป็นตัวการันตีถึงประสบการณ์และความชำนาญ
บอจ.3 ภาษาอังกฤษ
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์ ที่มีเว็บไซต์หลักของบริษัท สำหรับขายสินค้าหรือบริการ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างของธุรกิจ หากนึกไม่ออก ลองเข้าไปดูตามเว็บไซต์ของบริษัทใหญ่ จะสังเกตเห็น สัญลักษณ์สีม่วง DBD อยู่ตามเว็บไซต์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธุรกิจร้านค้าที่ผ่านการจดทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อย่างถูกต้อง ทำให้คนที่เป็นลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยที่จะเลือกซื้อสินค้า ในส่วนของร้านค้าเองก็มีความน่าเชื่อถือ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ทีดีให้กับธุรกิจบนโลกออนไลน์
จดทะเบียนบริษัท ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
สิ่งที่ต้องเตรียมในการจดทะเบียนบริษัท
หลายคนพออ่านถึงตรงนี้ อาจจะต้องกุมขมับ เพราะต้องเตรียมเอกสารมากมาย ซึ่งมันยุ่งยากและซับซ้อนมาก จึงทำให้มีคนสนใจหันมาใช้บริการกับบริษัทที่ รับจดทะเบียนบริษัท แทน ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็คุ้มค่า หากเลือกบริษัทที่เป็นมืออาชีพ มีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐาน
บริษัท PANGPOND รับจดทะเบียนบริษัท และรับทำบัญชี โดยผู้เชียวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
ชื่อนี้การรันตีความเนี้ยบ ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว
สามารถติดต่อใช้บริการ รับทำบัญชี และ รับจดทะเบียนบริษัท ได้ที่ โทร 081-931-8761 Line 0819318761
หรือเข้าดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ PANGPOND.COM
บริการให้คำปรึกษาฟรี
ในการจองชื่อเพื่อจดทะเบียนบริษัท มักจะมีข้อจำกัดเนื่องจากมีการจดทะเบียนบริษัท มาก่อนหน้านี้แล้วหลายสิบปี ชื่อที่เราชอบมักจะซ้ำ ไม่ว่าจะพ้องเสียงอีก มันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวในการจองชื่อบริษัท ซึง ยังจะมีข้อจำกัดในการจองชื่อบริษัท ตาม คำแนะนำในการจองชื่อ เพื่อจดทะเบียนบริษัท ของกรมพัฒนาธุรกิจ อีกด้วย
หลังจากจองชื่อเพื่อจะจดทะเบียน แล้วระหว่างรอการทำตรายางเราก็มาพิมพ์แบบฟอร์มการจดทะเบียนบริษัท ได้ตาม ตัวอย่าง การกรอกแบบฟอร์ จดทะเบียนบริษัท ที่เรามีให้ มีรายละเอียดค่อนข้างมากหน่อยแต่ไม่เกินความสามารถครับ
สำหรับจดทะเบียนบริษัท หลังจากจองชื่อเพื่อจะจดทะเบียน ได้แล้วก็ถึงเวลาต้องออกแบบตรายางเพื่อใช้ในการจดทะเบียน แต่การทำตรายางก็มีข้อกำหนดในการทำตรายาง ต้องศึกษาก่อนทำจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเปลือง ระยะเวลาในการจดทะเบียนบริษัท ในปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัท จะใช้ระยะเวลาเพียงวันเดียวหากเอกสารทุกอย่างถูกต้อง…
จดทะเบียนบริษัท ต้องใช้กี่คน จดทะเบียนบริษัท 1 คน ได้ไหม?
เป็นคำถามสุดคลาสสิก สำหรับผู้ประกอบหน้าใหม่ เนื่องช่วง 3 4 ปีที่ผ่านมา มีการพูดถึงข้อมูลที่สามารถจดทะเบียนบริษัท 1 คนได้ โดยมีการแชร์บทความจาก แหล่งที่น่าเชื่อถือๆ บ้าง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันอยู่สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่
ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถจดเบียนบริษัท 1 คนได้ หากจะประกอบกิจการ เจ้าของคนเดียวก็สามารถทำได้อยู่ แต่จะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของ บริษัท จำกัด นั้นเอง
แล้วจดทะเบียนบริษัท 2 คนละ?
ปัจจุบันยังไม่สามารถจดเป็น บริษัท จำกัดได้ แต่ สามารถจดเป็น ห้างหุ้นส่วนได้ ต้องย้อนไปในอดีต การจดทะเบียนบริษัท มีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคตามสมัย อดีตเคยใช้ ถึง 7 คน ปัจจุบัน สนับสนุนให้ผู้คนประกอบการจัดตั้งบริษัทมากขึ้น จึงลดการใช้จำนวน บุคคลที่ใช้จด ทะเบียน เหลือ เพียง 3 คน ลดความยุ่งยาก และอาจมองเห็นว่า เป็นบุคคลใกล้ชิดก็เพียงพอในการดำเนินธุรกิจแล้ว
รู้หรือไม่ว่า เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทมีอะไรบ้าง ?
ขั้นตอนในทีนี้ ต้องบอกก่อนว่า แบ่งออกเป็น 2 ส่วน หลักๆ คือ
***หมายเหตุ หากกิจการของท่าน มีคู่ค้า ที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ รายได้ของบริษัท เกินตามที่กฎหมายกำหนด ก็จำเป็นจะต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีทะเบียนบ้านไม่ระบุชื่อเจ้าบ้านและที่อยู่ในบัตรประชาชนไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
สถานที่จดทะเบียน จดทะเบียนบริษัท ที่ไหน
หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 87 แห่ง โดยตั้งอยู่ ในเขตกรุงเทพมหานคร จํานวน 7 แห่ง ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ํา) สํานักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 (ปิ่นเกล้า พหลโยธิน รัชดาภิเษก สี่พระยา บางนา และแจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา)) และในส่วนภูมิภาคที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจังหวัดละ 1 แห่ง รวมถึงสาขาของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอีก 4 แห่ง คือ แม่สอด เมืองพัทยา หัวหิน และ เกาะสมุย ยกเว้น การขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการซึ่งมีกฎหมายพิเศษ ควบคุม ได้แก่ หลักทรัพย์คลังสินค้า ห้องเย็น ไซโล นายหน้าประกันภัย บริหารสินทรัพย์ให้ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานบริการจดทะเบียน ดังต่อไปนี้
คำขอจดทะเบียนบริษัทได้ทุกพื้นที่ทั่วไทยแล้ว
***หมายเหตุ ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาระบบ ให้สามารถ จดทะเบียนบริษัท ออนไลน์ (online) ได้แล้ว โดย ยื่นจดทะเบียนทางระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration)
แบ่งออกเป็น2แบบ คือ 1.ค่าธรรมเนียม 2.ค่าบริการจ้างจดทะเบียน
****หมายเหตุ หากใช้บริการ สำนักงานบัญชี หรือ สำนักงานทนายความ ค่าบริการ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างรับงาน
ทางกรมพัฒนาฯ ได้กำหนดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนต่างไว้เป็นตรางค่าธรรมเนียมไว้แล้ว แต่ครั้งนี้จะพูดถึงแค่ว่าค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนบริษัท จะเป็นเท่าไร
หากดูจากตรางค่าธรรมเนียมแล้วจะแบ่งออกมาเป็นค่าธรรมเนียมบริษัทได้ดังนี้
บาท | |
1. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ | |
1.1 ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1,000,000 บาท | 500.- |
1.2 ทุนจดทะเบียนทุก 100,000 บาท ที่กำหนดไว้ | 50.- |
(เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท) | |
1.3 ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 50,000,000 บาท | 25,000.- |
2. จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิก่อนจัดตั้งบริษัท | |
2.1 จดทะเบียนแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิทุกข้อ(นอกจากการเพิ่มทุน) | 400.- |
2.2 จดทะเบียนแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อเพิ่มทุน | |
(1) ทุนจดทะเบียนที่เพิ่มไม่เกิน 1,000,000 บาท | 500.- |
(2) ทุนจดทะเบียนทุก 100,000 บาท ที่เพิ่มขึ้น | 50.- |
(เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท) | |
(3) ทุนจดทะเบียนที่เพิ่มตั้งแต่ 50,000,000 บาท | 25,000.- |
3. จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด | |
3.1 ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1,000,000 บาท | 5,000.- |
3.2 ทุนจดทะเบียนทุก 100,000 บาท ที่กำหนดไว้ | 500.- |
(เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท) | |
3.3 ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 50,000,000 บาท ขึ้นไป | 250,000.- |
4. จดทะเบียนควบบริษัทจำกัด | 5,000.- |
5. จดทะเบียนการแปรสภาพห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือ | |
ห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัด | |
5.1 ทุนจำนวนไม่เกิน 1,000,000 บาท | 5,000.- |
5.2 ทุนจดทะเบียนทุก 100,000 บาท ที่กำหนดไว้ | 500.- |
(เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท) | |
5.3 ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 50,000,000 บาท ขึ้นไป | 250,000.- |
6. จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมบริษัท | |
6.1 จดทะเบียนมติพิเศษ (เพิ่มทุน/ลดทุน/ควบบริษัท) | 400.- |
6.2 จดทะเบียนเพิ่มทุน | |
คิดตามทุนที่เพิ่มทุก 100,000 บาท | 500.- |
(เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท) | |
เพิ่มทุนตั้งแต่ 50,000,000 บาท ขึ้นไป | 250,000.- |
6.3 จดทะเบียนลดทุน | 400.- |
6.4 จดทะเบียนแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิทุกข้อ | 400.- |
6.5 จดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับทุกข้อ | 400.- |
6.6 จดทะเบียนกรรมการเข้าใหม่ คนละ | 400.- |
6.7 จดทะเบียนกรรมการออก (ไม่กำหนดจำนวนคน) | 400.- |
6.8 จดทะเบียนแก้ไขอำนาจกรรมการ | 400.- |
6.9 จดทะเบียนแก้ไขสำนักงานแห่งใหญ่ และ/หรือสำนักงานสาขา | 400.- |
6.10 จดทะเบียนแก้ไขดวงตรา | 400.- |
6.11 จดทะเบียนรายการอื่น ๆ ซึ่งเห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบ | 400.- |
7. จดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชี | 400.- |
8. จดทะเบียนเปลี่ยนตัวผู้ชำระบัญชี | 400.- |
9. จดทะเบียนแก้ไขอำนาจผู้ชำระบัญชี | 400.- |
10. จดทะเบียนแก้ไขสำนักงานผู้ชำระบัญชี | 400.- |
11. จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี | 400.- |
ชื่อบริษัท ภาษาอังกฤษ Company Limited Partnership หรือชื่อห้างหุ้นส่วน ภาษาอังกฤษ Limited Partnership
Co., Ltd. ย่อมาจาก Company Limited หมายถึง บริษัทจำกัด
Part., Ltd. ย่อมาจาก Partnership Limited หมายถึง ห้างหุ้นส่วนจำกัด
Pub Co., Ltd. ย่อมาจาก Public Company Limited หมายถึง บริษัท มหาชน จำกัด
บริษัท ……………………………………………………….………….จำกัด
ทะเบียนเลขที่ ………………………………………..
(ทุน.……………………….บาท แบ่งออกเป็น………………….หุ้น มูลค่าหุ้นละ …….…………..……บาท)
ข้อ 1. จำนวนหุ้นทั้งสิ้นซึ่งได้มีผู้เข้าชื่อซื้อหรือได้จัดออกให้แล้ว ……………………หุ้น (……………….….….)
เป็นหุ้นสามัญ ……………หุ้น (…….……) ชนิดเดียว / และหุ้นบุริมสิทธิ .…………….หุ้น (……………….)
ข้อ 2. จำนวนหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ คือ
ก. หุ้นสามัญ ซึ่งต้องให้ใช้เป็นเงินจนเต็มค่า (ลงเงินเต็มมูลค่า) .……………………หุ้น (……………….….….) และ ซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มค่าแล้ว (ไม่ต้องลงเงินเลย).……………………หุ้น (……………….….….) ได้ใช้แต่บางส่วนแล้ว หุ้นละ ……บาท (ลงเงินเพียงหุ้นละ…….บาท) .………………หุ้น (……………….….….)
ข. หุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งต้องให้ใช้เป็นเงินจนเต็มค่า (ลงเงินเต็มมูลค่า) .………………….หุ้น (……………….….….) และ ซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มค่าแล้ว (ไม่ต้องลงเงินเลย).……………………หุ้น (……………….….….) ได้ใช้แต่บางส่วนแล้ว หุ้นละ ……บาท (ลงเงินเพียงหุ้นละ…….บาท) .………………..หุ้น (……………….….….)
ข้อ 3. จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วแต่ละหุ้น (เฉพาะหุ้นที่ลงเงิน) คือ
ก. หุ้นสามัญ ซึ่งต้องลงเงินเต็มมูลค่า ได้ใช้เงินค่าหุ้นแล้วหุ้นละ ..……………….บาท (……………….…….) และ ซึ่งต้องลงเงินเพียงหุ้นละ ……………..บาท ได้ใช้เงินค่าหุ้นแล้วหุ้นละ ..……………..บาท (………………..)
ข. หุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งต้องลงเงินเต็มมูลค่า ได้ใช้เงินค่าหุ้นแล้วหุ้นละ ..……………….บาท (……………….…….) และ ซึ่งต้องลงเงินเพียงหุ้นละ ……………..บาท ได้ใช้เงินค่าหุ้นแล้วหุ้นละ ..……………..บาท (………………..)
ข้อ 4. จำนวนเงินที่ได้รับไว้เป็นค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น คือ
ก. หุ้นสามัญ ซึ่งต้องลงเงินหุ้นละ …………….บาท ได้รับเงินค่าหุ้นไว้แล้ว …..…..……………บาท และ ซึ่งต้องลงเงิน (บางส่วน) เพียงหุ้นละ …………….บาท ได้รับเงินค่าหุ้นไว้แล้ว …..…..……………บาท
ข. หุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งต้องลงเงินหุ้นละ …………….บาท ได้รับเงินค่าหุ้นไว้แล้ว …..…..……………บาท และ ซึ่งต้องลงเงิน (บางส่วน) เพียงหุ้นละ …………….บาท ได้รับเงินค่าหุ้นไว้แล้ว …..…..……………บาท
จำนวนเงินค่าหุ้นที่ได้รับไว้แล้วรวมทั้งสิ้น …………..บาท (….…………..….……………)
ข้อ 5. ชื่อ และที่อยู่ ของกรรมการทุกคนของบริษัท จำนวน ………คน ดังปรากฏรายละเอียดในแบบ ก. ที่แนบ
ข้อ 6. จำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัท คือ
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
(ลงลายมือชื่อ) …………………………..…………….…… กรรมการผู้ขอจดทะเบียน
(………………………………………….……)
หน้า …………ของจํานวน ………….หน้า (ลงลายมือชื่อ)…………………………….นายทะเบียนเอกสารประกอบคําขอที่ ……………… (……….….…..…….….…………………….)
ข้อ 7. บริษัทนี้ตั้งขึ้นโดย มี/ไม่มี กําหนดอายุ……………………………………………………..…………………………
ข้อ 8. สํานักงานของบริษัท มี …………………แห่ง คือ
สํานักงานแห่งใหญ่ เลขรหัสประจําบ้าน ????-??????-? ตั้งอยู่เลขที่ …………………..อาคาร …………………………………………………..ห้องเลขที่ ………………… ชั้นนที่ ………….. หมู่บ้าน ……………………………………………… หมู่ที่ ………….. ตรอก/ซอย……………………………………………..ถนน…………………………………………….. ตำบล/แขวง……………………………………………………….เขต…………………………………………………………จังหวัด………………………………………………….. รหัสไปรษณีย์ ………………………………………………. หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………………หมายเลขโทรสาร………………………………………….*E-mail …………………………………………………………………………………………………………………………ชื่อหรือที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์หรือประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) มีดังนี้1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………..สํานักงานแห่งใหญ่ เลขรหัสประจําบ้าน ????-??????-? ตั้งอยู่เลขที่ …………………..อาคาร …………………………………………………..ห้องเลขที่ ………………… ชั้นนที่ ………….. หมู่บ้าน ……………………………………………… หมู่ที่ ………….. ตรอก/ซอย ……………………………………………..ถนน…………………………………………….. ตำบล/แขวง………………………………………………………. อำเภอ/เขต …………………………………………………………จังหวัด………………………………………………….. รหัสไปรษณีย์ ………………………………………………. หมายเลขโทรศัพท์ …………………………………………หมายเลขโทรสาร………………………………………….*E-mail …………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อ 9. รายการอย่างอื่นซึ่งเห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบ มีดังนี้
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
ข้อ 10. ตราของบริษัท มีดังที่ประทับไว้นี้
ข้อ 11. บริษัทนี้ตั้งขึ้นโดย มี / ไม่มี ข้อบังคับ
(ลงลายมือชื่อ)……………………………………………………….…… กรรมการผู้ขอจดทะเบียน (….…..…………..………………….……………………..)
การค้าอาจดำเนินการได้หลายรูปแบบ ทั้งโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลำพัง หรืออาจดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเป็นกลุ่มคณะก็ได้ การที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินธุรกิจการค้าในรูปแบบใดนั้น ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเร็จนำมาซึ่งผล ประโยชน์และกำไรสูงสุด
การค้าอาจดำเนินการได้หลายรูปแบบ ทั้งโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลำพัง หรืออาจดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเป็นกลุ่มคณะก็ได้ การที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินธุรกิจการค้าในรูปแบบใดนั้น ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเร็จนำมาซึ่งผล ประโยชน์และกำไรสูงสุด
หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 87 แห่ง โดยตั้งอยู่ ในเขตกรุงเทพมหานคร จํานวน 7 แห่ง ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ํา) สํานักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 (ปิ่นเกล้า พหลโยธิน รัชดาภิเษก สี่พระยา บางนา และแจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา)) และในส่วนภูมิภาคที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจังหวัดละ 1 แห่ง รวมถึงสาขาของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอีก 4 แห่ง
จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ 500 บาท
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด 5,000 บาท
หนังสือรับรอง รายการละ 40 บาท
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท
จดทะเบียนบริษัท ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
สิ่งที่ต้องเตรียมในการจดทะเบียนบริษัท
ต้องมีชื่อบริษัท ที่ได้การจองชื่อไว้แล้ว
ที่ตั้งสำนักงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ของสำนักงานและกรรมการ
วัตถุประสงค์ที่ประกอบกิจการ
ทุนจดทะเบียน มูลค่าหุ้น
ข้อมูลผู้เริ่มก่อตั้ง เช่น ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ จำนวนหุ้น
ข้อมูลของพยาน 2 คน เช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ สัญชาติ
อากรแสตมป์
จำนวนทุนที่เรียกชำระแล้วอย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน
ชื่อ ที่อยู่ อายุ ของกรรมการ
รายชื่อกรรมการที่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัท
ชื่อ เลขทะเบียนผู้สอบัญชีรับอนุญาตและค่าตอบแทน
ชื่อที่อยู่ สัญชาติ จำนวนหุ้น ของผู้ถือหุ้นแต่ละคน
ตราสำคัญ
ปัจจุบันบุคคลธรรมดา 1 คน ยังไม่สามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ สามารถจดได้แต่ ทะเบียนการค้า หากต้องการเป็นนิติบุคคล จะต้องใช้ อย่างน้อย 2 คนขึ้นไป เพื่อรวมกันจดจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการที่อยู่ในรูปแบบ บุคคลธรรมดา ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ยกเว้นบุคคลธรรมดา ที่ประกอบอาชีพ ดังนี้ 1.การค้าเร่ การค้าแผงลอย
2.พาณิชยกิจเพื่อการบำรุงศาสนาหรือเพื่อการกุศล
3.พาณิชยกิจของนิติบุคคลซึ่งได้มีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น
4.พาณิชยกิจของ5.กระทรวง ทบวง กรม
6.พาณิชยกิจของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ และ 7.พาณิชยกิจซึ่งรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ปัจจุบันบุคคลธรรมดา 1 คน ยังไม่สามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ ยังเป็นเพียงร่างกฎหมายเขียนไว้ตามมาตรา 11 ว่า บริษัทจำกัดคนเดียวคือบริษัทที่ตั้งขึ้นด้วยความประสงค์จะแสวง หากำไรโดยมีเจ้าของทุนเป็นบุคคลธรรมดาคนเดียวซึ่งรับผิดจำกัดไม่เกินทุนจดทะเบียนของบริษัท
ที่หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 87 แห่ง กรุงเทพมหานคร จํานวน 7 แห่ง คือ
1.ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ำ)
2.ที่สํานักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 และต่างจังหวัด ที่ส่วนภูมิภาคที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจังหวัดละ 1 แห่ง และ ที่สาขาของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอีก 4 แห่ง
การดำเนินธุรกิจแบบจดทะเบียนนิติบุคคล เป็นการดำเนินธุรกิจที่แยกออกจากการเป็นบุคคลธรรมดา หากมีการดำเนินการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมสัญญา นิติกรรมสัญญา รวมถึง การชำระเงินภาษีจะเป็นไปในนามของกิจการทั้งหมด