BMI สูตร คำนวณง่ายๆ พร้อมวิธีอ่านค่า ดัชนีมวลกาย อย่างถูกต้อง
ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องจำเป็น การรู้จักค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการประเมินสุขภาพเบื้องต้นของตนเอง หากคุณเคยสงสัยว่า BMI คืออะไร? ใช้สูตรอะไรคำนวณ? หรือค่า BMI เท่าไหร่ถึงจะถือว่า “ปกติ” บทความนี้จะตอบทุกคำถาม พร้อม เทคนิคการคำนวณแบบเข้าใจง่าย และ ลิงก์อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ
BMI คืออะไร?
BMI (Body Mass Index) หรือ ดัชนีมวลกาย คือ ค่าที่ใช้ประเมินระดับความสมดุลระหว่างน้ำหนักตัวกับส่วนสูงของบุคคล ซึ่งสามารถบ่งชี้ภาวะ น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์, ปกติ, น้ำหนักเกิน หรืออ้วน ได้ในเบื้องต้น
BMI ไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยโรค แต่เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เรารู้ว่าควรดูแลสุขภาพอย่างไรต่อไป
BMI สูตร ที่ใช้คำนวณ
สูตรการคำนวณ BMI มีความง่ายและใช้เพียง น้ำหนัก (กิโลกรัม) และ ส่วนสูง (เมตร) เท่านั้น
👉 สูตรคำนวณ BMI คือ
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ (ส่วนสูงเป็นเมตร × ส่วนสูงเป็นเมตร)
ตัวอย่างเช่น:
หากคุณหนัก 60 กิโลกรัม และสูง 1.65 เมตร
BMI = 60 ÷ (1.65 × 1.65) = 22.04
ตารางแปลผลค่า BMI ตามเกณฑ์มาตรฐาน
ประเทศไทยใช้เกณฑ์มาตรฐานที่แตกต่างจากต่างประเทศเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของคนไทย
ทำไมการรู้ค่า BMI จึงสำคัญ?
-
ช่วยให้คุณรู้สถานะสุขภาพของตนเองเบื้องต้น
-
เป็นแนวทางในการ วางแผนลดหรือควบคุมน้ำหนัก
-
ช่วย ป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น ความดัน เบาหวาน หัวใจ
-
ใช้เป็นข้อมูลในการปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ข้อควรระวังในการใช้ BMI
แม้ว่า BMI จะใช้งานง่ายและสะดวก แต่ก็มี ข้อจำกัด เช่น:
-
ไม่สามารถแยกไขมันกับกล้ามเนื้อได้
(เช่น นักกีฬามีกล้ามเยอะแต่ BMI สูง อาจดูเหมือนอ้วนผิดปกติ) -
ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุ
-
ควรใช้ร่วมกับ การวัดรอบเอว สัดส่วนไขมัน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เครื่องมือคำนวณ BMI ออนไลน์ (แนะนำ)
สามารถใช้เครื่องมือคำนวณอัตโนมัติผ่านเว็บไซต์ของกรมอนามัยได้ที่นี่
➡️ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
สรุป: BMI สูตรง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
การรู้และเข้าใจค่า BMI เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเอง สูตรคำนวณก็ง่าย แค่ใช้ น้ำหนัก ÷ ส่วนสูง² เท่านั้น อย่ารอให้สุขภาพมีปัญหา ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ด้วยการคำนวณ BMI ของคุณ แล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเข้าสู่ น้ำหนักที่เหมาะสม
บทความนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไปด้านสุขภาพ ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์โดยตรงได้