วิธีดูความดัน | คู่มือสุขภาพที่ควรรู้ พร้อมเทคนิคการวัดความดันอย่างถูกต้อง
ความดันโลหิต (Blood Pressure) เป็นตัวชี้วัดสุขภาพที่สำคัญ หากตรวจวัดได้อย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง จะช่วยให้คุณรู้ทันโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง (Hypertension) หรือ ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) ที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก วิธีดูความดัน อย่าง ถูกวิธี, เข้าใจ ตัวเลขค่าความดัน, และ ความหมายของแต่ละระดับ เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างมั่นใจ
✅ ค่าความดันโลหิตคืออะไร?
ค่าความดันโลหิตประกอบด้วย 2 ค่า:
-
ความดันตัวบน (Systolic): ค่าความดันขณะหัวใจบีบตัว
-
ความดันตัวล่าง (Diastolic): ค่าความดันขณะหัวใจคลายตัว
ตัวอย่างค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่คือ 120/80 mmHg
🩺 วิธีดูความดันอย่างถูกต้อง (Step-by-Step)
-
เตรียมอุปกรณ์
ใช้เครื่องวัดความดันโลหิตที่เชื่อถือได้ เช่น เครื่องวัดแบบดิจิตอล หรือ เครื่องวัดแบบปรอท -
นั่งพักก่อนวัด 5 นาที
ห้ามวัดทันทีหลังเดินหรือทำกิจกรรม เพราะอาจได้ค่าที่คลาดเคลื่อน -
จัดท่าทางให้ถูกต้อง
-
นั่งตัวตรง
-
วางแขนบนโต๊ะระดับหัวใจ
-
พันสายรัดที่ต้นแขนให้แน่นพอดี
-
-
เริ่มวัดความดัน
เปิดเครื่อง รอผลการวัด ซึ่งจะแสดงเป็นตัวเลข 2 ค่า เช่น128/82 mmHg
-
จดบันทึกค่าความดัน
ควรจดทุกครั้งที่วัด เพื่อดูแนวโน้มในระยะยาว
📊 ตารางแปลผลค่าความดันโลหิต
🧠 ข้อควรระวังในการวัดความดัน
-
หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์ 30 นาทีก่อนวัด
-
ไม่พูดคุยหรือขยับตัวขณะวัด
-
ควรวัดเวลาเดิมทุกวัน เช่น ตอนเช้า
🔗 แหล่งข้อมูลทางการที่แนะนำ
เพื่อความแม่นยำในการดูแลสุขภาพ แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
(Outbound Link ไปยังหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้)
❓Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูความดัน
Q1: ความดันโลหิตเท่าไหร่ถึงเรียกว่า “สูง”?
A: หากค่าตัวบน ≥140 หรือค่าตัวล่าง ≥90 mmHg ถือว่าเป็น ความดันโลหิตสูง
Q2: สามารถวัดความดันเองที่บ้านได้ไหม?
A: ได้ครับ ควรใช้เครื่องวัดความดันแบบดิจิตอลที่ได้มาตรฐาน และวัดในท่าทางที่เหมาะสม
Q3: วัดความดันกี่ครั้งต่อวันจึงจะดีที่สุด?
A: วันละ 1-2 ครั้งในเวลาเดียวกัน เช่น ตอนเช้าและเย็น
Q4: ถ้าค่าความดันไม่ปกติ ควรทำอย่างไร?
A: ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและปรับพฤติกรรมการกิน-การออกกำลังกาย รวมถึงใช้ยาเมื่อจำเป็น