ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ ทำมาจากอะไร

3 ไส้หลอด ของหลอดอินแคนเดสเซนต์ทำมาจากอะไรโคตรเจ๋ง?

ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ทำมาจากอะไร

ไส้หลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Bulb) ทำจากวัสดุที่เรียกว่า “วล็อกแนล” (Tungsten) ซึ่งเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติในการแสดงความร้อนและความต้านทานไฟฟ้าที่สูงมาก. ไส้หลอดนี้จะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่สร้างความร้อนและแสงเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน.

กระบวนการทำงานของหลอดอินแคนเดสเซนต์คือ การใช้กระแสไฟฟ้าผ่านไปในไส้หลอดที่มีวล็อกแนล ทำให้วล็อกแนลร้อนขึ้นและแสดงความร้อน จากนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้ไส้หลอดส่องแสงออกมา ผสมกับความเรืองแสงจากวัสดุอื่น ๆ ในไส้หลอด เช่น แก้วหรือคริสตัล.

การใช้งานหลอดอินแคนเดสเซนต์มีข้อจำกัด เนื่องจากวล็อกแนลจะเสื่อมสภาพตามเวลาและการใช้งาน และมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานเป็นแสงที่น้อยกว่าหลอดไส้มาและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า แต่สามารถใช้งานได้ในการสร้างแสงสว่างพื้นฐานในสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการแสงที่มีคุณภาพสีแนบเคียงกับแสงแสดงธรรมชาติ และในบางกรณีที่ต้องการความร้อนในพื้นที่เพิ่มเติม เช่น ในโคมปลูกต้นไม้หรือการทำอาหารในอุปกรณ์ที่ใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นแหล่งความร้อน.

ขั้วหลอดของ หลอดอินแคนเดสเซนต์ ทำมาจากอะไร

ขั้วหลอดของหลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Bulb) ทำจากวัสดุที่เรียกว่า “วงแหวนฟิลาเมนต์” (Filament Wire) ซึ่งเป็นวัสดุโลหะที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนและต้านทานไฟฟ้าสูง. วงแหวนฟิลาเมนต์นี้จะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่สร้างความร้อนและแสงเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน.

วงแหวนฟิลาเมนต์ทำจากวัสดุโลหะเงินหรือวัสดุโลหะอื่นที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการทนความร้อน วงแหวนฟิลาเมนต์นี้จะถูกโค้งรูปเพื่อให้สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าและสร้างความร้อนอย่างมากในขณะที่ทำงาน.

เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านวงแหวนฟิลาเมนต์ จะเกิดกระบวนการปลดอิเลกตรอนของโลหะ ทำให้โลหะเกิดความร้อน และสร้างแสงที่เราเห็นเป็นแสงสีแสดงได้ แต่เนื่องจากความร้อนที่สูงที่เกิดขึ้น หลอดอินแคนเดสเซนต์มักจะมีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานเป็นแสงที่ต่ำ ซึ่งมากจากการสูญเสียพลังงานเป็นความร้อนในกระบวนการทำงาน.

อย่างไรก็ตาม หลอดอินแคนเดสเซนต์ได้ถูกแทนที่ในการใช้งานมากขึ้นโดยเทคโนโลยีหลอดไส้มาหรือหลอด LED ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงและอายุการใช้งานที่ยาวกว่า.

หลอดอินแคนเดสเซนต์ หลักการทํางาน

หลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Bulb) ทำงานตามหลักการของการทำให้วัตถุร้อนขึ้นและส่องแสงเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยมีกระบวนการหลักคือ “การทำให้วัตถุร้อนและประกายแสงด้วยความร้อน” (Incandescence).

เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านวงแหวนฟิลาเมนต์ (Filament Wire) ที่อยู่ภายในหลอด กระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้น

  1. ปลดอิเลกตรอน (Electron Emission) เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านวงแหวนฟิลาเมนต์ที่มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ (มีความต้านทานไฟฟ้าน้อยมาก), จะเกิดกระบวนการปลดอิเลกตรอนของโลหะในวงแหวน. อิเลกตรอนที่ถูกปลดออกจากวงแหวนฟิลาเมนต์จะมีพลังงานเพิ่มขึ้น.

  2. การกระจายพลังงานเป็นความร้อน (Energy Dissipation as Heat) อิเลกตรอนที่ถูกปลดออกจากวงแหวนฟิลาเมนต์จะชนกับอตอมภายในวงแหวน ทำให้พลังงานของอิเลกตรอนถูกส่งต่อให้กับอตอม ผลในกระบวนการนี้คือการเพิ่มพลังงานของอตอม ทำให้อตอมเคลื่อนที่และสร้างความร้อน.

  3. ความร้อนทำให้วัตถุประกาย (Incandescence) พลังงานความร้อนที่ถูกสร้างขึ้นจากการกระจายพลังงานของอิเลกตรอนทำให้วัตถุในวงแหวนฟิลาเมนต์ร้อนขึ้น. การร้อนของวัตถุทำให้เกิดกระบวนการประกายแสง หรือที่เรียกว่า “การส่องแสงเมื่อร้อน” (Thermal Radiation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ส่งออกพลังงานในรูปของแสงเมื่อวัตถุร้อนขึ้น.

ดังนั้น หลอดอินแคนเดสเซนต์จึงสร้างความร้อนและแสงผ่านกระบวนการปลดอิเลกตรอนและการส่องแสงเมื่อร้อนขึ้น แต่เนื่องจากมีส่วนที่สูญเสียพลังงานเป็นความร้อนมาก หลอดอินแคนเดสเซนต์มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานเป็นแสงที่ต่ำ และเป็นหลักการทำงานที่นำมาใช้กับหลอดไฟแบบดั้งเดิมในอดีต.

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com