บทสวดโมรปริตร

3 บทสวดโมรปริตร ป้องกันภัยร้ายนกยูงทองที่ไม่มีใครยอมพูด?

บทสวดโมรปริตร

บทสวดโมรปริตร

โมระปะริตตัง

      อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง
ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา
วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา
เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม
เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง
นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง 
นะโม วิมุตติยา อิมัง  โส ปะริตตัง
กัตวา  โมโร จะระติ เอสะนา ฯ

      อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง
ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะคุตตา
วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา
เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม
เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง
นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง
นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง
กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ

โมระปะริตตัง

      อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง
ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา
วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา
เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม
เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง
นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง 
นะโม วิมุตติยา อิมัง  โส ปะริตตัง
กัตวา  โมโร จะระติ เอสะนา ฯ

      อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง
ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะคุตตา
วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา
เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม
เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง
นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง
นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง
กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ

บทสวดโมรปริตร

บทสวดโมรปริตร

คำแปล โมรปริตร

       พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเพียงดังสีแห่งทอง ทำพื้นปฐพีให้สว่างอุทัยขึ้นมา เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระอาทิตย์นั้น ซึ่งมีสีเพียงดังสีแห่งทอง ทำพื้นปฐพีให้สว่าง ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ท่านคุ้มครองแล้วในวันนี้ พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพราหมณ์ทั้งหบาย ผู้ถึงซึ่งเวท คือความรู้ในธรรมทั้งปวง และขอพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักษาข้าพเจ้าเถิด ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระโพธิญาณ   ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้ที่พ้นจากกิเลสแล้วทั้งหลาย  ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ธรรมอันเป็นเครื่องทำให้พ้นจากกิเลส นกยูงนั้นได้ทำพระปริตรเครื่องป้องกันอย่างนี้แล้ว จึงเที่ยวไปแสวงหาอาหารในเวลากลางวัน

       พระอาทิตย์นี้เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเพียงดังสีแห่งทองยังพื้นปฐพีให้สว่าง ย่อมอัสดงคตตกไปแล้ว  เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระอาทิตย์นั้น  ซึ่งมีสีเพียงดังสีทอง ทำพื้นปฐพีให้สว่าง ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ท่านคุ้มครองแล้วในวันนี้ พึงอยู่เป็นสุขตลอดคืน ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้ถึงซึ่งเวท คือความรู้ในธรรมทั้งปวง และขอพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักาาข้าพเจ้าเถิด   ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระโพธิญาณ   ความนอบน้องของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้ที่พ้นจากกิเลสแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อใของข้าพเจ้า จงมีแด่ธรรมอันเป็นเครื่องทำให้พ้นจากกิเลส  นกยูงนั้นได้ทำพระปริตรเครื่องป้องกันอย่างนี้แล้ว  จึงได้สำเร็จการอยู่ในเวลากลางคืน ฯ

ขอบคุณที่มาบทความ:kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=7884 วันจันทร์, 30 พฤษภาคม 2565

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com