ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน
บัตรประชาชน
- ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน
ต้องการทําบัตรประชาชนใหม่ บัตรประชาชนหาย ต้องใช้เอกสารอะไร ทำได้ที่ไหนบ้าง 2564
บัตรประจำตัวประชาชนถือได้ว่าเป็นเอกสารสำคัญอย่างมากต่อมนุษย์ทุกคนบนโลกเลยทีเดียว เพราะในหลายประเทศที่มีเอกราชบนโลกบนนี้จะมีบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อให้แก่พลเมืองในชาติเมื่อถึงเกณฑ์อายุหนึ่ง โดยถือว่าเป็นเอกสารที่จะต้องดูแลไว้ในครอบครองจะใช้แทนกันมิได้ แสดงถึงตัวตนความเป็นพลเมืองในประเทศชาตนั้น ๆ
สำหรับชาติไทยเรานี้เองบัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารหลักฐานที่สามารถใช้ทำธุรกรรมตลอดจนยืนยันตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี ลองสังเกตดูสิว่าเมื่อไรก็ตามที่เราจะทำอะไรยื่นเอกสารสำคัญไม่ว่าจะเป็นกับหน่วยงานราชการ องค์กรมหาชน บริษัทเอกชนทั่วไป ล้วนแต่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงตัวตนทั้งสิ้น การใช้งานบัตรประจำตัวประชาชนอาจจะกระทบถึงความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สินและความมั่นคงของชาติได้ นั้นหมายความได้ว่าบัตรประจำตัวประชาชนถือเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุดของชีวิตเลยก็ว่าได้
ความเป็นมาเรื่องการทำบัตรประจำตัวประชาชนไทย
การทำบัตรประจำตัวประชาชนไทยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม แรกเริ่มเดิมทีกำหนดอายุผู้ที่ต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนไทยตั้งแต่บุคคลที่มีอายุได้ 16 ปีบริบูรณ์ ต่อมาในปีพ.ศ. 2526 ก็กำหนดอายุที่ต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนไทยตั้งแต่บุคคลที่มีอายุได้ 15 ปีบริบูรณ์ และล่าสุดนี้ในปีพ.ศ. 2554 ก็ได้ลดอายุผู้ที่ต้องทำบัตรประชาชนตั้งแต่บุคคลที่มีอายุได้ 7 ปี
กำหนดให้การทำบัตรประจำตัวประชาชนไทยมีความสำคัญในการยืนยันตัวตนบุคคลผู้ที่เป็นพลเมืองไทยได้ตามกฎหมาย สามารถรับบริการจากภาครัฐและภาคเอกชนได้โดยใช้บัตรประชาชน และกำหนดให้มีกฎหมายว่าหากบุคคลไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนไม่อาจแสดงบัตรโดยไม่มีเหตุอันควรต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาทด้วยเช่นกัน
การทำบัตรประจำตัวประชาชนไทย
บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารราชการที่ออกให้สำหรับพลเมืองไทย ซึ่งเป็นคนไทยตามกฎหมายโดยจะต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านเท่านั้น ทั้งนี้หากทะเบียนบ้านหายก็ถือว่าจะต้องแจ้งทำใหม่ด้วยเช่นเดียวกับบัตรประชาชน
คุณสมบัติผู้ที่จะต้องทำบัตรประชาชน
- บุคคลจะต้องมีสัญชาติไทยตามกฎหมาย
- บุคคลจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14)
- บุคคลจะต้องมีอายุตั้งแต่ 7 ปี จนถึง 70 ปี
กรณียกเว้นผู้ที่ไม่ต้องทำบัตรประชาชนคือ บุคคลที่มีอายุเกิน 70 ปี หรือเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น ดังต่อไปนี้
บุคคลที่กฎหมายกำหนดให้ยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประชาชนได้
- สมเด็จพระบรมราชินี
- พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป
- ภิกษุ สามเณร นักพรต และนักบวช
- ผู้มีกายพิการเดินไม่ได้ หรือเป็นใบ้ หรือตาบอดทั้งสองข้าง หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
- ผู้อยู่ในที่คุมขังโดยชอบด้วยกฎหมาย
- บุคคลซึ่งกำลังศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ และไม่สามารถยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนได้
ทำบัตรประชาชนต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
กรณีทำบัตรประชาชนครั้งแรก
บุคคลที่อายุได้ 7 ปีบริบูรณ์ จะต้องรีบพาไปทำบัตรประชาชน โดยจะต้องมีคุณสมับัติดังกล่าวข้างต้นคือ มีอายุ 7 ปีบริบูรณ์แล้ว และต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) ให้รีบไปทำบัตรประชาชนภายใน 60 วันทันที หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- ใช้สูติบัตร/ใบเกิด หรือสามารถใช้หลักฐานอื่นที่ราชการออกให้ เช่น ใบสุทธิ สำเนาทะเบียนนักเรียน หนังสือเดินทาง เป็นต้น
- กรณีบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล ต้องนำเอกสารสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลมาแสดงด้วย
กรณีบิดา มารดาของบุคคลเคยเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล ต้องนำเอกสารสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลมาแสดงด้วย
- หากไม่มีเอกสารตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรองการทำบัตรประชาชน
- กรณีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าว ให้นำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของบิดา มารดามาแสดงด้วย หรือนำใบมรณบัตรของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถึงแก่กรรมไปแสดง
- การขอมีบัตรครั้งแรกเมื่ออายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ต้องนำเอกสารหลักฐานที่กำหนดตามข้อ 1,2,3,4 และให้นำเจ้าบ้านและบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างน้อย 2 คน ไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวนและให้การรับรอง
กรณีทำบัตรประชาชนหมดอายุ/ ต่อบัตรประชาชน
บุคคลที่บัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ จะต้องต่อบัตรประชาชน โดยแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่บัตรประชาชนหมดอายุทันที หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ (ใบเดิม)
- กรณีบัตรหมดอายุเป็นเวลานาน จะต้องนำเจ้าบ้านหรือพยานบุคคลที่สามารถเชื่อถือได้มาอ้างอิงรับรองทำบัตรประชาชนใหม่
บัตรชำรุด/หาย/ถูกทำลาย
- ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน
กรณีทำบัตรประชาชนหาย หรือมีการถูกทำลาย
บุคคลที่ทำบัตรประชาชนหาย หรือบัตรประชาชนถูกทำลายจะต้องดำเนินการแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยจะสามารถแจ้งความได้ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตเทศบาลหรือเมืองพัทยา หรือโรงพัก โดยแล้วแต่กรณีที่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ปฏิบัติ โดยแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่บัตรประชาชนหาย หรือบัตรประชาชนถูกทำลาย หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: 20 บาท
เอกสารที่ต้องใช้
- เอกสารหลักฐานสำคัญที่ราชการออกให้ โดยจะต้องที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ด้วย ตัวอย่างเช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
- หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 1 บุคคลจะต้องนำเจ้าบ้านหรือพยานบุคคลที่สามารถเชื่อถือได้มาอ้างอิงรับรองทำบัตรประชาชนใหม่
- ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน
กรณีทำบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ หรือมีการถูกทำลายบางส่วน
บุคคลที่มีบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ หรือมีการถูกทำลายบางส่วน เช่น บัตรถูกไฟไหม้บางส่วน บัตรชำรุด เลอะเลือน เป็นต้น ต้องแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่บัตรประชาชนบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ หรือมีการถูกทำลายบางส่วน หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: 20 บาท
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมที่เดิมชำรุดในสาระสำคัญ หรือมีการถูกทำลายบางส่วน
- เอกสารหลักฐานสำคัญที่ราชการออกให้ โดยจะต้องที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ด้วย ตัวอย่างเช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
- หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 2 บุคคลจะต้องนำเจ้าบ้านหรือพยานบุคคลที่สามารถเชื่อถือได้มาอ้างอิงรับรองทำบัตรประชาชนใหม่
กรณีเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล จะต้องทำบัตรประชาชนใหม่
บุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อ หรือเปลี่ยนแปลงนามสกุล หรือทั้งชื่อและนามสกุล จะต้องแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือเปลี่ยนแปลงนามสกุล หรือทั้งชื่อและนามสกุล หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: 20 บาท
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมที่ต้องการเปลี่ยน
- เอกสารหลักฐานที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือเปลี่ยนแปลงนามสกุล หรือทั้งชื่อและนามสกุล ทั้งหมดเพื่อใช้ยืนยัน
กรณีเปลี่ยนคำนำหน้านาม ขอทำบัตรประชาชนใหม่
สามารถแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากที่มีการเปลี่ยนคำนำหน้านาม หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมที่ต้องการเปลี่ยน
- เอกสารหลักฐานที่มีการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้านาม เช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนอย่า เป็นต้น
กรณีบุคคลได้รับการยกเว้นการมีบัตรประจำตัวประชาชน
เช่น พระภิกษุ สามเณร ฯลฯ จะขอทำบัตรประจำตัวประชาชนได้
บุคคลที่ได้รับการยกเว้นบัตรประจำตัวประชาชนสามารถมีหรือไม่มีบัตรประชาชนก็ได้เช่นกัน เช่น พระภิกษุ สามเณร ฯลฯ
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- กรณีพระภิกษุ หรือสามเณร ต้องย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านของวัดก่อน แล้วแก้ไขคำนำหน้านามในทะเบียนบ้านเป็นพระ สามเณร หรือสมศักดิ์ ก่อนจึงจะขอมีบัตรได้
- เอกสารหลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร เช่น กรณีเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา ณ ต่างประเทศสามารถใช้เอกสารหนังสือเดินทางร่วมกับเอกสารที่ต้องมีพันธะอยู่ต่างประเทศ กรณีเป็นพระ สามเณร ใช้เอกสารหนังสือสุทธิของพระ เป็นต้น
สำหรับเอกสารหลักฐานสามารถกรณีเอกสารเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่อีกที่ได้ด้วยเช่นกัน
กรณีบุคคลได้รับการยกเว้นการมีบัตรประจำตัวประชาชน อายุ 70 ปีขึ้นไป ขอมีบัตรประชาชน
บุคคลซึ่งเป็นคนสัญชาติไทยที่มีอายุเกิน 70 ปี ได้รับการยกเว้นบัตรประจำตัวประชาชน แต่จะสามารถมีหรือไม่มีบัตรประชาชนก็ได้เช่นกัน
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นของฉบับเจ้าบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชนเดิม (ถ้ามี)
- หากไม่ปรากฏข้อมูลการทำบัตร หรือบัตรเดิมได้หมดอายุนานมากแล้ว ต้องนำเอกสารทางราชการเป็นผู้ออกให้มาแสดง พร้อมทั้งจะต้องนำเจ้าบ้านหรือพยานบุคคลที่สามารถเชื่อถือได้มาอ้างอิงรับรองทำบัตรประชาชนใหม่
กรณีเปลี่ยนที่อยู่ ย้ายถิ่นฐานใหม่
บุคคลที่มีการย้ายถิ่นฐาน เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ โดยจะต้องเปลี่ยนตามทะเบียนบ้านเท่านั้น และบัตรประชาชนเดิมยังไม่หมดอายุ สามารถแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ได้
ค่าธรรมเนียม: 20 บาท
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมที่ต้องการเปลี่ยน
กรณีถูกย้ายที่อยู่ เป็นบุคคลได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน
บุคคลที่มีถูกย้ายถิ่นฐาน โดยพึ่งถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้านใหม่ อาจจะเป็นกรณีตกสำรวจเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านจึงถูกเพิ่มขื่อภายหลังสามารถขอทำบัตรประชาชนได้ โดยจะต้องแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากที่มีการเพิ่มชื่อลงทะเบียนบ้านใหม่ หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- หากมีการเพิ่มชื่อ เพราะแจ้งเกิดเกินกำหนด ต้องใช้หลักฐานสูติบัตร และมีการสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลน่าเชื่อถือ
- หากมีการเพิ่มชื่อ เพราะกรณีชื่อตกสำรวจให้สำเนาทะเบียนบ้าน โดยเป็นบานที่ผู้นั้นเคยมีชื่ออยู่ก่อน จะต้องใช้เอกสารหลักฐานที่ทางราชการออกให้อย่างอื่นเพิ่มเติม และมีการสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลน่าเชื่อถือ
กรณีบุคคลได้สัญชาติไทย หรือได้รับอนุมัติให้มีสัญชาติไทย หรือได้กลับคืนสัญชาติไทย
บุคคลจะต้องแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับจากที่มีการอนุมัติให้มีสัญชาติไทย หากเกินกำหนดระยะเวลา 60 วัน จะต้องมีค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
เอกสารที่ต้องใช้
- เมื่อได้รับอนุมัติให้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ หรือได้กลับคืนสัญชาติไทย จะต้องใช้หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย หรือหนังสือสำคัญแสดงการได้กลับคืนสัญชาติเป็นไทย โดยจะต้องแล้วแต่กรณี
- หลักฐานอื่น ๆ ที่ทางราชการเป็นผู้ออกให้ และมีการสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลน่าเชื่อถือ
ทำบัตรประชาชนที่ไหน ?
- ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน
สถานที่ทำบัตรประชาชน ดังนี้
- สถานที่ราชการทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เช่น สำนักงานเขต, สำนักงานเทศบาล, สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, ที่ว่าการอำเภอในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน โดยจะสามารถยื่นเอกสาร ณ สถานที่ราชการได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
- จุดบริการด่วนมหานคร (BMA Express Service)
พื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถแจ้งทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ที่ สถานีรถไฟฟ้า BTS ยกเว้นกรณีบัตรหายเท่านั้นที่จะต้องติดต่อศูนย์ราชการแทน
สถานที่และเวลาเปิดบริการทำบัตรประชาชน BTS
- ทำบัตรประชาชน BTS สถานีรถไฟฟ้าสยาม (หน้าสยามพารากอน)
-
- ให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.30-19.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น.
- ทำบัตรประชาชน BTS สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต
-
- ให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-20.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น.
- ทำบัตรประชาชน BTS สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์
-
- ให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-20.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น.
- ทำบัตรประชาชน BTS สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข
-
- ให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-19.00 น.
- ทำบัตรประชาชน BTS สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่
-
- ให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-19.00 น.
นอกจากจะสามารถขอทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ที่สถานที่รถไฟฟ้า BTS แล้ว ก็ยังสามารถขอรับบริการทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ที่ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้าเกตเวย์เอกมัย, ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, ห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค, ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค, ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง เป็นต้น
- ประกันสังคมว่างงาน
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามเรื่องการการทำบัตรประชาชนได้ที่สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครองสายด่วน Call Center 1548 หรือสามารถติดต่อที่สำนักงานเขต และที่ว่าการอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ
ว่าด้วยเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบัตรประจำตัวประชาชน
ทางกฎหมายแล้วบัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่สุดในการยืนยันความเป็นพลเมืองสัญชาติไทยตามกฎหมาย โดยมีหลักกฎหมายมากมายที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของบัตรประจำตัวประชาชน
กฎหมายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการจะใช้กฎหมายหลัก คือ พ.ร.บ. บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ นอกจากนี้จะเป็นในส่วนขอกฎหมายรอง อาทิเช่น กฎกระทรวง การขอตรวจหลักฐาน รายการ หรือข้อมูลเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือกฎกระทรวง กำหนดบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นต้น
หากใครต้องการทราบข้อกฎหมายหลักและข้อกฎหมายรอง ว่าด้วยเรื่องระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชนก็สามารถดูข้อกฎหมายทั้งหมดได้จากช่องทางเว็บไซด์สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือคลิกลิ้งค์เว็บไซด์ http://www.law.moi.go.th/group5_law11.html
บัตรประจำตัวประชาชนเป็นของเรา แล้วจะถูกตำรวจยึดได้หรือไม่
เนื่องจากประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและมีผู้ที่ไม่ทราบถึงกฎหมาย และความสำคัญเรื่องนี้จำนวนมาก ซึ่งเราก็จะมาไขข้อสงสัยเรื่องนี้กันให้กระจ่าง โดยจะสมมติยกตัวอย่างเหตุการณ์เพื่อประกอบความเข้าใจด้วย ดังนี้
เหตุการณ์สมมติ กรณีนาย A กำลังขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมากำลังจะกลับที่พัก ระหว่างทางถูกตำรวจเรียกตรวจ และขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชนเป็นของนาย A รวมทั้งขอตรวจปัสสาวะด้วย แต่นาย A ไม่ได้พกบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย รวมทั้งไม่ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะ นาย A ได้อ้างว่าตามกฎหมายแล้วตำรวจไม่มีสิทธิ์ตรวจปัสสาวะ และไม่มีสิทธิ์ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนเป็นของนาย A ได้
แท้จริงแล้ว..ตามหลักกฎหมายก่อนว่าตำรวจมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์กระทำดังกล่าว?
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเราต้องมาดูตามกฎหมายที่เป็นเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนก่อน ซึ่งตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชนพุทธศักราช 2526 ได้ระบุไว้ว่า “กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน” ซึ่งหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วบุคคลจะต้องเริ่มทำบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่อายุ 7 ปีบริบูรณ์ แต่สำหรับกฎหมายว่าด้วยเรื่องการพกบัตรประจำตัวประชาชนได้กำหนดให้ “บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่จะต้องพกบัตรประชาชน เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงาน ดังนั้นผู้ที่มีอายุระหว่าง 7 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่ได้พกบัตรประชาชนก็ไม่มีความผิด” จะเห็นได้ว่าแค่ไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็ถือเป็นความผิดเรียบร้อยแล้ว
ชี้แจงในประเด็นความผิดแรก คือหากคุณอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปแล้วไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนนี่ถือได้ว่าผิดกฎหมายแล้ว เพราะเมื่อคุณอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไปเจ้าพนักงานมีสิทธิ์ในการขอดูเอกสารสำคัญบัตรประจำตัวประชาชนได้ โดยที่นาย A ไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน มาตรา 17 “ผู้ถือบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ผู้ใดไม่สามารถแสดงบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ เมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท”
แล้วหลายคนคงสงสัยว่าแล้วถ้านาย A แสดงบัตรประจำตัวประชาชนแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ยึดบัตรประจำตัวประชาชนได้หรือไม่ โดยทางกฎหมายแล้วประชาชนมีสิทธิ์อ้างกฎหมายเพื่อแสดงความชอบธรรมได้ว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 15366/2557 กล่าวว่า “กรณีที่เจ้าพนักงานหรือตำรวจยึดบัตรประจำตัวประชาชน โดยไม่มีเหตุสงสัยตามสมควร และชอบด้วยเหตุผล ไม่แจ้งข้อกล่าวหา และไม่ดำเนินคดีอย่างใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เป็นเจ้าของบัตร กรณีนี้จึงถือว่าเป็นการยึดเอาบัตรประชาชนไว้โดยลุแก่อำนาจ และมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรได้รับความเดือดร้อนเสียหาย การกระทำของเจ้าพนักงานหรือตำรวจจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เป็นเจ้าของบัตร”
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนาย A เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์กล่างโทษได้เช่น เชิญตัวไปโรงพักกรณีที่มีความผิดไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน และทำการเสียค่าปรับตามกฎหมาย และอาจจะมีกรณีอื่นร่วมด้วยเช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย และหากนาย A โต้เถียงเจ้าหน้าที่พนักงานหรือตำรวจ ก็อาจจะมีข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานได้ด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่ารู้กฎหมายแล้วก็ต้องรู้วิธีใช้กฎหมายอย่างมีขอบเขตด้วยเช่นกัน ทางที่ดีพกบัตรประจำตัวประชาชน และแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีเหตุจำเป็นอันควร หากพบว่ามีเหตุไม่จำเป็นสมควรก็ควรขอความช่วยเหลือกับผู้รู้กฎหมายจะดีเสียกว่า
สรุป
ประจำตัวประชาชนเป็นเอสการสำคัญอย่างมากของพลเมืองไทยทุกคน หากเราละเลยที่จะไม่ทำบัตรประชาชนเมื่อสูญหาย ก็จะส่งผลต่อสถานการณ์คับขันดังเหตุการณ์สมมติได้ หรืออาจจะส่งผลต่อความเสียหายด้านการทำธุรกรรมการเงิน ตลอดจนการแสดงตัวตนมากมาย ดังนั้นทางที่ดีบัตรประจำตัวประชาชนควรมีการอัพเดตข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เป็นจริง และระวังไม่ให้ศูนย์หายจะดีที่สุด หากพบว่าหมดอายุก็ควรรีบต่อบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ให้เรียบร้อย