ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ สรุป

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ ความสามารถในการสังเกต?

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ: พื้นฐานสำคัญของการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสังเกต ทดลอง ตั้งคำถาม และสรุปผลอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็นหัวใจของ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง โดย ทักษะทั้ง 14 ข้อ สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ทักษะกระบวนการพื้นฐาน และ ทักษะกระบวนการแบบผสมผสาน


1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Science Process Skills)

เป็นทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นรากฐานของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 6 ทักษะสำคัญ ดังนี้

1.1 การสังเกต (Observing)

เป็นการใช้ ประสาทสัมผัส เช่น ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรือปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์

1.2 การวัด (Measuring)

เป็นการใช้ เครื่องมือและหน่วยวัดมาตรฐาน เช่น เมตร กรัม วินาที เพื่อหาค่าปริมาณของสิ่งต่างๆ

1.3 การจำแนกประเภท (Classifying)

เป็นการ จัดกลุ่มข้อมูล ตาม ลักษณะหรือคุณสมบัติร่วมกัน เช่น การจำแนกพืชเป็นกลุ่มไม้ดอกและไม้ผล

1.4 การหาความสัมพันธ์เชิงตัวเลข (Using Numbers)

เป็นการ ใช้ตัวเลขหรือการคำนวณทางคณิตศาสตร์ มาวิเคราะห์ข้อมูล เช่น การหาค่าเฉลี่ย หรือการคำนวณเปอร์เซ็นต์

1.5 การพยากรณ์ (Predicting)

เป็นการ คาดการณ์ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บนพื้นฐานของข้อมูลที่มี เช่น การพยากรณ์อากาศจากแนวโน้มอุณหภูมิ

1.6 การสื่อสารข้อมูล (Communicating)

เป็นการ ถ่ายทอดข้อมูลหรือผลการทดลอง ผ่านทาง กราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือคำพูด เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น


2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบผสมผสาน (Integrated Science Process Skills)

เป็นทักษะที่ต้องใช้หลายกระบวนการร่วมกันในการแก้ปัญหาและทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 8 ทักษะหลัก ดังนี้

2.1 การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (Defining Operationally)

เป็นการ ให้คำนิยามของตัวแปรหรือสิ่งที่ศึกษา โดยใช้ลักษณะเชิงปฏิบัติการที่สามารถวัดได้

2.2 การตั้งสมมติฐาน (Formulating Hypotheses)

เป็นการ คาดเดาคำตอบของปัญหาทางวิทยาศาสตร์ บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่

2.3 การกำหนดตัวแปร (Identifying Variables)

เป็นการ วิเคราะห์และระบุประเภทของตัวแปร ได้แก่ ตัวแปรต้น (Independent Variable), ตัวแปรตาม (Dependent Variable), และตัวแปรควบคุม (Controlled Variable)

2.4 การทดลอง (Experimenting)

เป็นการ ออกแบบและดำเนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นระบบ

2.5 การตีความข้อมูลและการลงข้อสรุป (Interpreting Data and Drawing Conclusions)

เป็นการ วิเคราะห์ข้อมูล และ สรุปผล อย่างมีเหตุผลจากการทดลองหรือการศึกษา

2.6 การสร้างแบบจำลอง (Making Models)

เป็นการ สร้างภาพจำลองหรือโครงสร้าง เพื่ออธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน เช่น แบบจำลองอะตอม หรือแบบจำลองระบบสุริยะ

2.7 การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Using Scientific Process)

เป็นการ ใช้ทุกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาและทำวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.8 การควบคุมตัวแปร (Controlling Variables)

เป็นการ ควบคุมปัจจัยที่อาจมีผลต่อผลการทดลอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้แม่นยำและน่าเชื่อถือ


ความสำคัญของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

การพัฒนาทักษะเหล่านี้ช่วยให้บุคคลมี แนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และสามารถ ใช้เหตุผล ตัดสินใจ และแก้ปัญหา ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น รวมถึงเป็นพื้นฐานสำคัญของ STEM Education และ การเรียนรู้เชิงนวัตกรรม

หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรวิทยาศาสตร์และกระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ กระทรวงศึกษาธิการ