ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ สสวทรากฐานของการเรียน?
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ ตามแนวทางของ สสวท.
(อัปเดตล่าสุดปี 2567 พร้อมแนวทางพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด)
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ซึ่ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้กำหนด 14 ทักษะ ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถ สำรวจ ทดลอง วิเคราะห์ และสื่อสารข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ได้อย่างเป็นระบบ
🔎 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ
ทักษะเหล่านี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน (Basic Science Process Skills)
เป็นทักษะพื้นฐานที่ใช้ในกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ทั่วไป ประกอบด้วย 8 ทักษะ ได้แก่
-
การสังเกต (Observation)
- การใช้ประสาทสัมผัส เช่น ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง
- การบันทึก ลักษณะทางกายภาพ ของสิ่งที่สังเกตได้
-
การวัด (Measuring)
- ใช้ เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ เช่น ไม้บรรทัด นาฬิกา เทอร์มอมิเตอร์
- รายงาน ค่าที่วัดได้อย่างแม่นยำ
-
การจำแนกประเภท (Classifying)
- จัดกลุ่ม สิ่งของหรือข้อมูลตาม ลักษณะร่วม
- ใช้เกณฑ์ เชิงปริมาณและคุณภาพ
-
การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล (Data Organization and Interpretation)
- นำเสนอข้อมูล ในรูปแบบกราฟ ตาราง หรือแผนภูมิ
- วิเคราะห์ แนวโน้มและความสัมพันธ์ ของข้อมูล
-
การพยากรณ์ (Predicting)
- ใช้ ข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น
- พยากรณ์ โดยอาศัยเหตุผลและหลักฐาน
-
การลงข้อสรุป (Inferring)
- สรุปผลจากข้อมูลที่สังเกต โดยใช้เหตุผล
- แยกแยะระหว่าง ข้อเท็จจริงกับข้อสรุปที่ตีความ
-
การตั้งคำถาม (Questioning)
- ตั้งคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อสำรวจปัญหา
- พัฒนาคำถามที่สามารถนำไปสู่ การทดลองทางวิทยาศาสตร์
-
การสื่อสาร (Communicating)
- นำเสนอข้อมูล ผ่านการพูด เขียน หรือแสดงผลข้อมูล
- ใช้ สัญลักษณ์ กราฟ และโมเดล ในการอธิบาย
2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ (Integrated Science Process Skills)
เป็นทักษะระดับสูงที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถ วิเคราะห์และแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ได้อย่างลึกซึ้ง ประกอบด้วย 6 ทักษะ ได้แก่
-
การกำหนดและควบคุมตัวแปร (Identifying and Controlling Variables)
- ระบุ ตัวแปรต้น (Independent Variable) และ ตัวแปรตาม (Dependent Variable)
- ควบคุม ตัวแปรควบคุม เพื่อให้การทดลองแม่นยำ
-
การตั้งสมมติฐาน (Formulating Hypotheses)
- ตั้งสมมติฐานที่สามารถ ทดสอบได้ทางวิทยาศาสตร์
- ใช้ หลักการทางเหตุผล ในการคาดการณ์ผลการทดลอง
- การออกแบบการทดลอง (Designing Experiments)
- วางแผน ขั้นตอนการทดลองอย่างเป็นระบบ
- กำหนด เครื่องมือและวิธีการเก็บข้อมูลที่เหมาะสม
- การตีความข้อมูลและลงข้อสรุป (Interpreting Data and Drawing Conclusions)
- วิเคราะห์ แนวโน้มของข้อมูล และนำไปสู่ข้อสรุป
- อธิบายผลลัพธ์ตาม หลักการทางวิทยาศาสตร์
- การสร้างแบบจำลอง (Modeling)
- สร้าง แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่ออธิบายปรากฏการณ์
- ใช้ โมเดลทางคณิตศาสตร์หรือภาพจำลอง
- การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา (Applying Scientific Processes to Problem Solving)
- ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์และหาทางแก้ไขปัญหา
- ประยุกต์ ความรู้สู่สถานการณ์จริง
✅ วิธีพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- ฝึกสังเกตสิ่งรอบตัว และตั้งคำถามทางวิทยาศาสตร์
- ทำการทดลองง่ายๆ โดยใช้เครื่องมือพื้นฐาน
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ผ่านตารางและกราฟ
- ทบทวนแนวคิดและตั้งสมมติฐาน จากข้อมูลที่ได้
- ฝึกอธิบายปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างเป็นระบบ
📌 ความสำคัญของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
✔️ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
✔️ สร้างนิสัยใฝ่รู้ และตั้งคำถามอย่างมีเหตุผล
✔️ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
✔️ เตรียมความพร้อมสู่การเรียนรู้ด้าน STEM
🔗 แหล่งข้อมูลอ้างอิง
สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ที่ เว็บไซต์ สสวท.
📢 สรุป:
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 14 ทักษะ เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งช่วยพัฒนา ความสามารถในการวิเคราะห์ แก้ปัญหา และตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะเหล่านี้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับบูรณาการจะช่วยให้ผู้เรียนมี พื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและอาชีพในอนาคต