วิธีเปิด HTTPS:// อย่างถูกต้องและปลอดภัย
HTTPS เป็นโปรโตคอลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์อย่างปลอดภัย โดยช่วย เข้ารหัสข้อมูล ระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ ลดความเสี่ยงจากการถูกดักข้อมูล (Man-in-the-Middle Attack) หากคุณไม่สามารถเปิด HTTPS:// ได้ หรือพบปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ให้ลองใช้วิธีแก้ไขตามนี้
1. ตรวจสอบว่าที่อยู่เว็บใช้ HTTPS หรือไม่
ก่อนอื่น ตรวจสอบว่า URL ที่คุณพิมพ์ขึ้นต้นด้วย https://
หากเว็บไซต์ที่คุณต้องการเข้าถึงรองรับ HTTPS ระบบจะโหลดเว็บไซต์ผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าหากเว็บไม่รองรับ HTTPS อาจเกิดข้อผิดพลาด หรือไม่สามารถเข้าใช้งานได้
✅ วิธีตรวจสอบง่ายๆ
- ลองพิมพ์ https://yourwebsite.com แล้วกด Enter
- หากเว็บโหลดได้ แสดงว่าเว็บรองรับ HTTPS
- หากขึ้นข้อความ “Your connection is not private” หรือ “ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR” แสดงว่าเว็บไซต์อาจมีปัญหาด้านใบรับรอง SSL
2. ตรวจสอบใบรับรองความปลอดภัย (SSL Certificate)
หากคุณกำลังเป็น เจ้าของเว็บไซต์ และต้องการให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงผ่าน HTTPS:// ได้ จำเป็นต้องติดตั้ง SSL Certificate ซึ่งเป็นใบรับรองความปลอดภัยที่ช่วย เข้ารหัสข้อมูล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน
✅ วิธีตรวจสอบว่าเว็บมี SSL หรือไม่
- คลิกที่ ไอคอนแม่กุญแจ 🔒 บนแถบ URL ของเบราว์เซอร์
- หากเว็บไซต์มี SSL Certificate ที่ถูกต้อง จะแสดงรายละเอียดความปลอดภัย
- หากไม่มีใบรับรอง SSL อาจขึ้นข้อความ “Not Secure” หรือ “Certificate Invalid”
📌 หากคุณต้องการใบรับรอง SSL ฟรี สามารถขอรับจากผู้ให้บริการอย่าง Let’s Encrypt หรือหากเป็นองค์กรสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก ETDA (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์) ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ SSL ได้ที่ etda.or.th
3. แก้ไขปัญหาเมื่อเปิด HTTPS:// ไม่ได้
หากคุณไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ได้ อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การตั้งค่าเบราว์เซอร์, ใบรับรองหมดอายุ, หรือ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บมีปัญหา ลองใช้วิธีแก้ไขต่อไปนี้
🔹 วิธีแก้ไขปัญหาบน Google Chrome / Edge / Firefox
-
ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์
- ไปที่ Settings > Privacy and security > Clear browsing data
- เลือก Cookies and cached images/files
- กด Clear Data แล้วลองเข้าใหม่
-
ลองใช้โหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito Mode)
- กด
Ctrl + Shift + N
(Windows) หรือCmd + Shift + N
(Mac) - ใส่ URL
https://yourwebsite.com
แล้วลองเข้าใหม่
- กด
-
ตรวจสอบวันเวลาของเครื่องคอมพิวเตอร์
- หากวันเวลาของอุปกรณ์ไม่ตรง อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด SSL Certificate Error
- แก้ไขโดยไปที่ Settings > Date & Time แล้วตั้งค่าให้ถูกต้อง
-
อัปเดตเบราว์เซอร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ไปที่ Help > About Google Chrome เพื่ออัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด
4. วิธีตั้งค่า HTTPS บนเว็บไซต์ของคุณ
หากคุณเป็น เจ้าของเว็บไซต์ และต้องการให้เว็บของคุณใช้งาน HTTPS:// ได้อย่างถูกต้อง ต้องมีการติดตั้ง SSL และตั้งค่าเว็บให้รองรับ HTTPS ดังนี้
🔹 วิธีติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บเซิร์ฟเวอร์
- ขอใบรับรอง SSL จากผู้ให้บริการ เช่น Let’s Encrypt, Cloudflare, หรือ GoDaddy
- ติดตั้งใบรับรอง SSL บนเว็บเซิร์ฟเวอร์
- สำหรับ Apache Server: แก้ไข
httpd.conf
- สำหรับ NGINX Server: แก้ไข
nginx.conf
- สำหรับ Apache Server: แก้ไข
- Redirect HTTP ไปยัง HTTPS อัตโนมัติ
- ใช้
.htaccess
หรือserver configuration
เพื่อบังคับให้เว็บใช้ HTTPS - ตัวอย่าง
.htaccess
บังคับใช้ HTTPS:
- ใช้
5. สรุป: HTTPS มีความสำคัญอย่างไร?
🔹 ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูล – การเข้ารหัสข้อมูลช่วยลดโอกาสในการถูกแฮกข้อมูลส่วนตัว
🔹 เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ – เว็บไซต์ที่มี SSL จะแสดงแม่กุญแจ 🔒 และได้รับความไว้วางใจมากขึ้น
🔹 ช่วยในเรื่องของ SEO – Google ให้คะแนน Ranking สูงกว่า กับเว็บที่ใช้ HTTPS
🔹 ป้องกันการแจ้งเตือน “Not Secure” บนเบราว์เซอร์ – ลดอัตราการออกจากหน้าเว็บ (Bounce Rate)
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HTTPS และ SSL Certificate สามารถดูรายละเอียดได้ที่ ETDA – สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จากภาครัฐ
🔥 แนะนำ: หากคุณเป็น เจ้าของเว็บไซต์ และยังไม่ได้ใช้ HTTPS แนะนำให้ ติดตั้ง SSL Certificate ทันที เพื่อเพิ่ม ความปลอดภัย, ความน่าเชื่อถือ