หาค่าดัชนีมวลกาย สูตรคำนวณ BMI เข้าใจง่าย ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ค่าดัชนีมวลกาย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า BMI (Body Mass Index) คือ ตัวชี้วัดสุขภาพเบื้องต้น ที่ช่วยประเมินว่า น้ำหนักตัวของเรานั้นเหมาะสมกับส่วนสูงหรือไม่ โดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในด้านสุขภาพ โภชนาการ และการวางแผนออกกำลังกาย
ทำไมต้องหาค่าดัชนีมวลกาย?
การ หาค่าดัชนีมวลกาย มีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สามารถบ่งบอกได้ว่า:
-
คุณมีน้ำหนักเกินหรือไม่
-
คุณอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักปกติหรือเปล่า
-
มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคหัวใจหรือไม่
ดังนั้น การรู้ ค่าดัชนีมวลกาย ของตัวเองจึงเป็นก้าวแรกของการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน
สูตรหาค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
สูตรคำนวณ BMI มีดังนี้:
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ (ส่วนสูง × ส่วนสูง) (เมตร)
ตัวอย่าง:
หากคุณมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม และมีส่วนสูง 1.65 เมตร
BMI = 60 ÷ (1.65 × 1.65) = 60 ÷ 2.7225 ≈ 22.05
ค่ามาตรฐานของ BMI อยู่ที่เท่าไหร่?
หมายเหตุ: ค่ามาตรฐานนี้เป็นเกณฑ์สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป ไม่รวมเด็กหรือหญิงตั้งครรภ์
หาค่า BMI อย่างไรให้แม่นยำ?
-
ชั่งน้ำหนักตอนเช้า หลังตื่นนอน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าคลาดเคลื่อนจากการกินน้ำหรืออาหาร
-
วัดส่วนสูงโดยยืนตัวตรง เท้าชิด กะโหลกศีรษะแนบกับผนัง
-
ใช้ สูตร BMI ด้านบน หรือจะใช้เครื่องคำนวณจากเว็บไซต์ราชการก็ได้ เช่น
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ข้อจำกัดของการใช้ค่าดัชนีมวลกาย
แม้ว่า BMI จะเป็นเครื่องมือที่ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น:
-
ไม่สามารถแยกระหว่าง ไขมัน กับ กล้ามเนื้อ ได้
-
ไม่สามารถใช้ได้ดีในผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อเยอะ เช่น นักกีฬา
-
ไม่ครอบคลุมสุขภาพโดยรวม เช่น รอบเอว ความดัน หรือระดับไขมันในเลือด
สรุป: เริ่มต้นดูแลสุขภาพได้จากการหาค่าดัชนีมวลกาย
การ หาค่าดัชนีมวลกาย เป็นขั้นตอนแรกที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้สูตรคำนวณง่ายๆ ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า สุขภาพร่างกายของเรากำลังอยู่ในจุดที่ดีหรือควรปรับปรุง อย่าลืมว่า สุขภาพดี เริ่มที่รู้ตัวเองก่อน และ BMI คือเครื่องมือเบื้องต้นที่ทุกคนควรใช้
อ้างอิง: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข