วิธีดูหยกแท้ ด้วยตาเปล่าแบบมืออาชีพ พร้อมเทคนิคแยกของจริงจากของปลอม
หยก (Jade) เป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยความเชื่อในเรื่อง โชคลาภ สุขภาพ และการปกป้องภัยอันตราย แต่ในตลาดปัจจุบันมี หยกปลอม ปะปนอยู่มากมาย หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ อาจพลาดซื้อของปลอมในราคาหลายพันหรือหลายหมื่นบาทได้ง่ายๆ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก วิธีดูหยกแท้ แบบ มืออาชีพ ที่สามารถทำได้ ด้วยตาเปล่าและการสัมผัสเบื้องต้น พร้อม เทคนิคและเครื่องมือเสริม ที่ใช้โดยนักอัญมณีทั่วโลก
✅ 5 วิธีดูหยกแท้ ที่ใครๆ ก็ทำตามได้
1. ดูสีของหยก
-
หยกแท้มักมีสี ไม่สม่ำเสมอ 100% แต่จะมีลวดลายธรรมชาติ สีที่พบได้บ่อยคือ เขียวอ่อน เขียวเข้ม ม่วง ขาว หรือเหลืองอมน้ำตาล
-
หยกปลอมจะมีสี สดจนเกินจริง หรือสม่ำเสมอทั้งก้อน เหมือนทาสี
2. สัมผัสความเย็นของหยก
-
หยกแท้จะเย็นเมื่อสัมผัส และเย็นต่อเนื่องแม้อยู่ในอุณหภูมิห้อง
-
หยกปลอม (โดยเฉพาะพลาสติกหรือแก้ว) จะอุ่นเร็วเมื่อสัมผัส
3. ฟังเสียงเมื่อเคาะ
-
ใช้หยกอีกก้อนเคาะเบาๆ ถ้าเป็นของแท้จะได้ยินเสียง ใส กังวาน
-
หยกปลอมมักให้เสียง ทึบหรือแหบ คล้ายแก้วราคาถูก
4. ส่องด้วยไฟฉาย
-
เมื่อส่องไฟผ่านหยกแท้ คุณจะเห็น เส้นใยหรือจุดภายในเนื้อหยก (fibrous structure) ที่คล้ายเส้นผมเล็กๆ
-
หยกปลอมจะดูโปร่งใสเกินจริงหรือมีฟองอากาศ
5. ตรวจสอบใบรับรองจากแหล่งที่เชื่อถือได้
-
หากเป็นการซื้อหยกมูลค่าสูง ควรขอดู ใบ Certificate จากสถาบันที่เชื่อถือได้ เช่น GIT (สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ) หรือ GIA
📌 ข้อควรระวังในการซื้อหยก
-
หลีกเลี่ยงการซื้อหยกจากแหล่งที่ไม่ระบุตัวตนชัดเจน
-
หากราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก ให้ ระวังว่าอาจเป็นของปลอม
-
ควรซื้อจากร้านที่มี รีวิวดี มีการจดทะเบียนธุรกิจ และมีใบรับประกันสินค้า
🔎 เครื่องมือเสริมที่มืออาชีพใช้ตรวจหยก
🏛️ แหล่งอ้างอิงทางราชการ
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การตรวจสอบอัญมณีแท้-ปลอม สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์
❓ คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หยกแท้มีเฉดสีอะไรบ้าง?
A: หยกแท้สามารถมีได้หลายสี เช่น เขียว ม่วง ขาว เหลือง น้ำตาล หรือดำ โดยเฉดสีขึ้นกับแหล่งกำเนิดและองค์ประกอบทางเคมี
Q: หยกปลอมสามารถดูไม่ออกด้วยตาเปล่าได้ไหม?
A: ได้! หยกปลอมคุณภาพสูงอาจดูคล้ายของแท้มาก จำเป็นต้องใช้ เครื่องมือวิทยาศาสตร์หรือใบรับรอง ช่วยยืนยัน
Q: หยกพม่า กับ หยกจีน ต่างกันอย่างไร?
A: หยกพม่ามักมีสีเข้มและโครงสร้างแน่นกว่า ส่วนหยกจีนมักมีโทนสีอ่อนและโปร่งกว่าเล็กน้อย