
อาหาร 5 หมู่ สำคัญต่อร่างกายอย่างไร? คู่มือสุขภาพฉบับเข้าใจง่าย
การรับประทาน อาหาร 5 หมู่ อย่างสมดุลถือเป็นรากฐานของสุขภาพที่ดี ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสร้างภูมิคุ้มกัน การเข้าใจและเลือกกินอาหารทั้ง 5 หมู่ จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัย
? อาหารหมู่ที่ 1 โปรตีน
หน้าที่หลัก: ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
แหล่งอาหาร: เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา ถั่วเหลือง และนม
? อาหารหมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
หน้าที่หลัก: ให้พลังงานแก่ร่างกายและสมอง
แหล่งอาหาร: ข้าว แป้ง มัน เผือก ขนมปัง และธัญพืช
? อาหารหมู่ที่ 3 ไขมัน
หน้าที่หลัก: ช่วยกักเก็บพลังงาน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน
แหล่งอาหาร: น้ำมันพืช ถั่วเมล็ดแห้ง ปลา และน้ำมันจากสัตว์บางชนิด
? อาหารหมู่ที่ 4 วิตามินและเกลือแร่
หน้าที่หลัก: ควบคุมการทำงานของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน
แหล่งอาหาร: ผักใบเขียว ผลไม้สดทุกชนิด
? อาหารหมู่ที่ 5 นม
หน้าที่หลัก: ช่วยบำรุงกระดูกและฟันเพราะมีแคลเซียมสูง พร้อมโปรตีนและวิตามินที่สำคัญ
แหล่งอาหาร: นมสด นมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว และผลิตภัณฑ์จากนม
? การจัดสัดส่วนอาหาร 5 หมู่ที่เหมาะสม
-
โปรตีน: 20%
-
คาร์โบไฮเดรต: 50–55%
-
ไขมันที่ดี: 20–25%
-
วิตามินและเกลือแร่: จากผักผลไม้วันละ 400–500 กรัม
-
นม: อย่างน้อยวันละ 1–2 แก้ว
✅ ประโยชน์ของการกินอาหารครบ 5 หมู่
-
ลดความเสี่ยงโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ
-
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กและเยาวชน
-
เพิ่มสมรรถภาพในการทำงานและการเรียน
-
เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง
แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักโภชนาการจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องจากภาครัฐ
? สรุป
อาหาร 5 หมู่ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจในการเลือกบริโภคอย่างสมดุล ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพราะ “กินอาหารให้ครบ และพอดี” คือกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน
❓ Q&A เกี่ยวกับอาหาร 5 หมู่
Q1: ถ้าไม่กินอาหารครบ 5 หมู่จะเกิดอะไรขึ้น?
A: ร่างกายอาจขาดสารอาหาร ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย และอาจเกิดโรคขาดสารอาหารได้
Q2: เด็กควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่ในปริมาณเท่าผู้ใหญ่หรือไม่?
A: เด็กควรได้รับอาหารครบทั้ง 5 หมู่เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่ปริมาณควรปรับตามอายุ น้ำหนัก และการใช้พลังงาน
Q3: ควรเลือกไขมันชนิดใดดีที่สุดต่อสุขภาพ?
A: ควรเลือกไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง และปลาทะเล








