2 อธิบายความแตกต่างระหว่าง “คำนามเฉพาะ” และ “คำนามทั่วไป.”
15/04/2024 23/04/2024
อธิบายความแตกต่างระหว่าง “คำนามเฉพาะ” และ “คำนามทั่วไป.”
“คำนามเฉพาะ” (Proper Noun) และ “คำนามทั่วไป” (Common Noun) เป็นสองประเภทหลักของคำนามที่มีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกันดังนี้
คำนามเฉพาะ (Proper Noun)
คำนามเฉพาะเป็นคำนามที่ใช้เพื่อระบุชื่อเฉพาะของบุคคล, สถานที่, หรือองค์กรที่เฉพาะเจาะจง และมักขึ้นตัวใหญ่ทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดในประโยคก็ตาม โดยไม่มีการใช้ “a,” “an,” หรือ “the” นำหน้า.
ตัวอย่างของคำนามเฉพาะรวมถึงชื่อคน, เช่น “John,” “London,” “Microsoft,” หรือ “Eiffel Tower.”
คำนามทั่วไป (Common Noun)
คำนามทั่วไปเป็นคำนามที่ใช้ในการอธิบายสิ่งของทั่วไปและไม่ใช่ชื่อเฉพาะ ซึ่งอาจจะเป็นคำนามที่ใช้กันทั่วไปในภาษาและไม่เจาะจงเฉพาะตัวอะไร คำนามทั่วไปมักจะขึ้นตัวใหญ่เฉพาะเมื่ออยู่ในตำแหน่งแรกของประโยค หรือหากมีเหตุผลเฉพาะในบริบทที่นั้น.
ตัวอย่างของคำนามทั่วไปรวมถึงคำอาหารเช่น “apple,” “book,” “cat,” หรือ “car.”
ในสรุป, คำนามเฉพาะใช้เพื่อระบุชื่อเฉพาะของสิ่งของที่เจาะจงและมักขึ้นตัวใหญ่ทั้งหมด ในขณะที่คำนามทั่วไปใช้เพื่ออธิบายสิ่งของทั่วไปและมักขึ้นตัวใหญ่เฉพาะเมื่ออยู่ในตำแหน่งแรกของประโยคหรือเมื่อมีเหตุผลเฉพาะในบริบทที่นั้น.
นี่คือตัวอย่าง ของคำนามเฉพาะและคำนามทั่วไป
คำนามเฉพาะ (Proper Noun)
“Harry Potter is a famous wizard.” (Harry Potter เป็นนักเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียง)
ในที่นี้ “Harry Potter” เป็นคำนามเฉพาะที่ใช้ระบุชื่อของนักเวทมนตร์ที่เฉพาะเจาะจง.
“I visited Paris last summer.” (ผมไปเที่ยวปารีสในฤดูร้อนที่ผ่านมา)
“Paris” เป็นคำนามเฉพาะที่ระบุชื่อของเมืองที่เฉพาะเจาะจง.
คำนามทั่วไป (Common Noun)
“An apple a day keeps the doctor away.” (กินแอปเปิ้ลทุกวันช่วยรักษาสุขภาพ)
“apple” เป็นคำนามทั่วไปที่ไม่เจาะจงและใช้เพื่ออธิบายสิ่งของทั่วไป.
“I read a book last night.” (ผมอ่านหนังสือเมื่อคืน)
“book” เป็นคำนามทั่วไปที่ไม่เจาะจงและใช้ในบทบาททั่วไปของหนังสือในประโยค.
“Cats are known for their independence.” (แมวมีชื่อเสียงในการเป็นอิสระ)
“cats” เป็นคำนาม ทั่วไปที่ใช้เพื่ออธิบายสิ่งของที่ไม่เจาะจง (ทุกชนิดของแมว).
อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com