การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิด

5 การใช้เครื่องหมายวรรคตอน ผิดพลาดสามารถสร้างความเข้าใจผิด?

การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดพลาดสามารถสร้างความเข้าใจผิดได้อย่างไร?

การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดพลาดอาจสร้างความเข้าใจผิดได้ในหลายทาง เพื่อให้เข้าใจดีขึ้น เรามาดูกันว่าเครื่องหมายวรรคตอนทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างไรบ้าง

  1. คำแปลกำกวม เครื่องหมายวรรคตอนช่วยในการแยกคำและประโยคให้มีความชัดเจน ถ้าเราใส่เครื่องหมายวรรคตอนผิดพลาดหรือไม่ใส่เลย อ่านหรือเขียนข้อความก็อาจทำให้เกิดความสับสนในการแยกคำหรือประโยค และทำให้ความหมายของประโยคไม่ชัดเจน

  2. ความหมายที่เปลี่ยนแปลง เครื่องหมายวรรคตอนมีบทบาทในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประโยคและวรรค การใช้หรือไม่ใช้เครื่องหมายวรรคตอนในสถานการณ์ต่าง ๆ อาจเปลี่ยนความหมายของประโยคได้ เช่น คำถามและคำตอบ หรือประโยคที่มีความเสียงหรือลักษณะทางไวยากรณ์ที่แตกต่างกัน

  3. ความรู้สึกและการสื่อสาร เครื่องหมายวรรคตอนช่วยในการแสดงความรู้สึกและทัศนคติของผู้เขียนหรือผู้พูด การใช้หรือไม่ใช้เครื่องหมายวรรคตอนอาจทำให้ความรู้สึกและทัศนคติไม่ถูกต้องหรือเข้าใจผิดได้

  4. ความคลุมเครือมากเกินไปหรือน้อยเกินไป การใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความคลุมเครือหรือความกระจุก ถ้าใช้เครื่องหมายวรรคตอนมากเกินไป อาจทำให้ความหมายแต่ละประโยคเชื่อมโยงกันเกินไป แต่ถ้าใช้น้อยเกินไป อาจทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในการสื่อสาร

  5. การตีความผิด การใช้หรือไม่ใช้เครื่องหมายวรรคตอนอาจทำให้คนที่อ่านหรือฟังเอาความเข้าใจผิด ถ้ามีการตีความผิดจากการใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดพลาด อาจเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้เขียน

ดังนั้น เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด การใช้เครื่องหมายวรรคตอนควรใส่ใจในการตรวจสอบและแก้ไขเพื่อให้ความหมายและความชัดเจนของข้อความดีขึ้น

ตัวอย่างที่แสดงถึงวิธีการใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดพลาดที่อาจสร้างความเข้าใจผิด

  1. ประโยคขาดเครื่องหมายวรรคตอน “มาเรียนบ้าน” ในที่นี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นคำสั่งให้ใครเรียนบ้าน หรือเป็นคำถามถึงความต้องการให้ใครมาเรียนบ้าน

  2. ความเข้าใจคลุมเครือ “เดินทางมากินข้าวกัน” ไม่แน่ใจว่าเป็นการเดินทางเพื่อมากินข้าวร่วมกันหรือไม่

  3. การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดเพื่อความเข้าใจ “รถเก๋งสีน้ำเงินขับเข้าร้าน เปิดไฟตอนเข้า” อาจทำให้คิดว่ารถเก๋งเปิดไฟตอนเข้าร้าน

  4. คำถามที่ไม่ชัดเจน “คุณเข้าห้องน้ำหรือยัง” โดยไม่มีเครื่องหมายวรรคตอนคุณจะไม่รู้ว่าเป็นคำถามหรือประโยคที่แยกต่างหาก

  5. การไม่ใช้เครื่องหมายวรรคตอนในคำบรรยาย “ตอนเย็นมีเพลงสวรรค์เล่น คนมาก” ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพลงสวรรค์และจำนวนคนมีอย่างไร

  6. ความหมายตรงข้าม “ไม่ใช่ทุกคนมา” ไม่รู้ว่าจะเป็นการเชิงบวกหรือเชิงลบ เช่น มากหรือน้อย

  7. ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประโยค “เดินเข้าห้อง เปิดไฟแล้วนั่งอ่าน” ไม่แน่ใจว่าการเปิดไฟเกิดขึ้นหลังจากเข้าห้องหรือก่อน

  8. การตีความผิด “เห็นนกบินข้างบนต้นไม้ กลัวมาก” ไม่แน่ใจว่าความกลัวเกี่ยวข้องกับการเห็นนกบินหรือต้นไม้

  9. การใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่ถูกต้อง “กินข้าวแล้วหรือยัง” ถ้าเขียนเป็น “กินข้าวแล้วหรือยัง?” จะเป็นคำถามที่ชัดเจนกว่า

  10. ประโยคยาวมากโดยไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน “วันนี้อากาศดีแต่ต้องไปทำงานคนเยอะอยู่หน้าหน้าเพราะว่ามีงานเยอะจนต้องทำแบบเร่งด่วน” ข้อความยาวเช่นนี้อาจทำให้เกิดความสับสนในการอ่านและเข้าใจประโยค

การใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างถูกต้องและคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเขียนและสื่อสารเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด แนะนำให้ตรวจสอบและแก้ไขข้อความก่อนเผยแพร่หรือส่งต่อให้แน่ใจว่าเครื่องหมายวรรคตอนถูกต้องและช่วยให้ความหมายของข้อความเป็นที่ชัดเจน

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com