Noun suffix คือ
Noun suffix เป็นคำต่อท้ายที่เติมต่อหลังคำนามเพื่อสร้างคำใหม่ที่มีความหมายแตกต่างไปจากคำเดิม ตัวอย่างของ Noun suffix ได้แก่ -ness, -hood, -ism, -tion, -ment เป็นต้น ซึ่งแต่ละ suffix จะมีความ หมายและการใช้งานที่แตกต่างกันไป การใช้ noun suffix จะช่วยเพิ่มความหมายหรือเปลี่ยนแปลงความหมายของคำนามเดิมได้ ยกตัวอย่างเช่น happy เป็นคำกริยาที่แสดงความสุข แต่เมื่อเติม suffix -ness เข้าไปจะกลายเป็นคำนาม happiness ที่แสดงถึงสภาวะของความสุข ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างจากคำว่า happy โดยไม่ต้องเปลี่ยนคำอื่นในประโยค.
Noun suffix คําศัพท์
Noun suffix คือ คำเติมท้ายที่เอาไว้เปลี่ยนคำคุณศัพท์ (adjective) หรือคำกริยา (verb) เป็นคำนาม (noun) โดยมักใช้ในภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำนั้น บางครั้งนิยมใช้คำเติมเหล่านี้เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์และความตั้งตรงให้กับคำนามมีดังนี้
- -ness, -ity, -tion, -ment, -er, -ism, -tion, -ation, -ition, -ification, -sion, -al, -ance/ -ence
- -ee/-e, -an/ -n, -ant, -ent, -er/ or, -ese, -ess, -ure
- -ism/ ist, -ty/ -ity, -ness, -y/ ery, -ing, -dom, -hood, -ship
Noun suffix examples ตัวอย่าง
Noun suffix คือ คำเติมท้ายที่ใช้เพิ่มความหมายให้กับคำกริยา โดยทำให้เกิดคำนามใหม่ขึ้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่หลังคำศัพท์ ตัวอย่าง Noun suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่
- -ment เช่น development, enjoyment, government
- -ness เช่น happiness, darkness, kindness
- -er/-or เช่น teacher, actor, author
- -ance/-ence เช่น importance, confidence, influence
- -dom เช่น kingdom, freedom, wisdom
Adjective suffix
เหตุผลที่ใช้ Adjective suffix เพื่อเพิ่มคุณลักษณะให้กับคำคุณศัพท์ หรือเปลี่ยนคำนามเป็นคำคุณศัพท์ เพื่อให้เข้าใจความหมายของคำได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นตัวอย่าง Adjective suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่
- -ful เช่น beautiful, careful, playful
- -less เช่น hopeless, careless, homeless
- -ish เช่น childish, girlish, reddish
- -ous เช่น famous, dangerous, gorgeous
- -al เช่น national, personal, professional
Verb suffix
Verb suffix คือ คำเติมท้ายที่ใช้เปลี่ยนคำนามหรือคำคุณศัพท์เป็นคำกริยา หรือเพิ่มความหมายให้กับคำกริยาเดิม โดยส่วนใหญ่จะอยู่หลังคำศัพท์ ตัวอย่าง Verb suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่
- -ate เช่น activate, calculate, participate
- -en เช่น broaden, strengthen, weaken
- -ize/-ise เช่น analyze, criticize, organize
- -ate เช่น activate, celebrate, educate
- -en เช่น brighten, deepen, heighten
Adverb suffix
เหตุผลที่ใช้ Adverb suffix เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ เพื่อให้เข้าใจความหมายของประโยคได้ชัดเจน และช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
- -ly เช่น quickly, happily, beautifully
- -ward เช่น forward, backward, homeward
- -wise เช่น clockwise, lengthwise, likewise
- -wards เช่น upwards, onwards, downwards
- -fully เช่น carefully, successfully, thoughtfully
Noun suffix คําศัพท์ และวิธีการใช้ suffix ที่เป็น noun
- การใช้ -ment อ่านว่า เม้นท์ เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix ซึ่งจะสามารถเติมหลังคำกริยานั้น ให้เปลี่ยนเป็นคำนาม ตัวอย่างเช่น
- Amuse เปลี่ยนเป็น Amusement
- Achieve เปลี่ยนเป็น Achievement
- Govern เปลี่ยนเป็น Government
- Agree เปลี่ยนเป็น Agreement
- Develop เปลี่ยนเป็น Development
- การใช้ –tion อ่านว่า ชั่น เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix มักจะนำลงท้ายคำกริยาที่ออกเสียงเป็นคำว่า เอจ ดังนั้น เมื่อเติม tion จึงอ่านเป็น เอชั่นหรืออีชั่น ตัวอย่างเช่น
- Complete เปลี่ยนเป็น Completion
- Appreciate เปลี่ยนเป็น Appreciation
- Violate เปลี่ยนเป็น Violation
ซึ่งมีคำกริยาที่ไม่ต้องลงท้าย เอ หรือ อี แต่เติม -tion ก็มีเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
- Attend เปลี่ยนเป็น Attention
- Collect เปลี่ยนเป็น Collection
- Produce เปลี่ยนเป็น Production
- การใช้ –ation อ่านว่า เอชั่น เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยเน้นการออกเสียงพยัญชนะตัวหน้ารวมกับ เอ และเติมคำว่า ชั่น ซึ่งเน้นเสียงหนักในการออกเสียงตรงตัว เอ มากกว่า ชั่น ตัวอย่างเช่น
- Adapt เปลี่ยนเป็น Adaptation
- Observe เปลี่ยนเป็น Observation
- Expect เปลี่ยนเป็น Expectation
- Transport เปลี่ยนเป็น Transportation
- การใช้ –ition อ่านว่า อิชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยเน้นการออกเสียงพยางค์ก่อน อิชั่น และจะต้องผสมเสียงของตัวพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ากับ อิ และเติมคำว่า ชั่น ต่อท้าย ตัวอย่างเช่น
- Repeat เปลี่ยนเป็น Repetition
- Expose เปลี่ยนเป็น Exposition
- Compete เปลี่ยนเป็น Competition
- การใช้ –ification อ่านว่า อิฟิเคชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -ify เปลี่ยนรูปให้เป็น -ification แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกและพยางค์ก่อนลงท้ายชั่นอีกเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น
- Amplify เปลี่ยนเป็น Amplification
- Beautify เปลี่ยนเป็น Beautification
- Classify เปลี่ยนเป็น Classification
- การใช้ –sion อ่านว่า ชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -deต้องเปลี่ยนรูป โดยตัด -de ออกและเติม -sion แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกหรือพยางค์ก่อนชั่น ตัวอย่างเช่น
- Decide เปลี่ยนเป็น Decision
- Divide เปลี่ยนเป็น Division
- Conclude เปลี่ยนเป็น Conclusion
- Invade เปลี่ยนเป็น Invasion
- การใช้ –sion ที่เติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย –se, t ก็ทำได้ ต้องเปลี่ยนรูป โดยตัด –se, t ออกและเติม -sion แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกหรือพยางค์ก่อนชั่น ตัวอย่างเช่น
- Revise เปลี่ยนเป็น Revision
- Permit เปลี่ยนเป็น Permission
- Omit เปลี่ยนเป็น Omission
- การใช้ –al อ่านว่า ออล์ การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย e, w, และ y ต้องเปลี่ยนรูป และคำส่วนมากจะตัด e, w, และ y และเติม al ต่อท้ายได้เลย ยกเว้นตัว y จะต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม al ตัวอย่างเช่น
- Arrive เปลี่ยนเป็น Arrival
- Refuse เปลี่ยนเป็น Refusal
- Survive เปลี่ยนเป็น Survival
- Withdraw เปลี่ยนเป็น Withdrawal
- Deny เปลี่ยนเป็น Denial
- Try เปลี่ยนเป็น Trial
- การใช้ –ance, -ence อ่านว่า เอ็นซ์ การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix ตัวอย่างเช่น
- Resist เปลี่ยนเป็น Resistance
- Assist เปลี่ยนเป็น Assistance
- Differ เปลี่ยนเป็น Difference
- Depend เปลี่ยนเป็น Dependence
- Appear เปลี่ยนเป็น Appearance
- Prefer เปลี่ยนเป็น Preference
- การใช้ –ship อ่านว่า ชิฟ การเปลี่ยนจาก คำนาม (common noun) เพื่อให้เป็นอาการนาม (Abstract noun) หรือเพื่อแสดงความชำนาญในอาชีพและมีทักษะเฉพาะ ตัวอย่างเช่น
- Friend เปลี่ยนเป็น Friendship
- Owner เปลี่ยนเป็น Ownership
- King เปลี่ยนเป็น Kingship
- Member เปลี่ยนเป็น Membership
- Author เปลี่ยนเป็น Authorship
- Musician เปลี่ยนเป็น Musicianship
- Scholar เปลี่ยนเป็น Scholarship
- การใช้ –ee, -e อ่านว่า อี การเปลี่ยนจาก คำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำนาม เพื่อให้กลายเป็นผู้กระทำเฉพาะเรื่องนั้น หรืออาจจะใช้กับลักษณะของผู้ที่ได้ทำสิ่งนั้นผ่านพ้นไปแล้วเป็นตำนาน ตัวอย่างเช่น
- Absent (adj.) เปลี่ยนเป็น Absentee
- Devote (v.) เปลี่ยนเป็น Devotee
- Trust (v.) เปลี่ยนเป็น Trustee
- การใช้ –er, -or อ่านว่า เอ้อร์ การเปลี่ยนจาก คำกริยาปกติกลายเป็นผู้กระทำกริยานั้นโดยเฉพาะ มักจะใช้กับอาชีพก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
- Run เปลี่ยนเป็น Runner
- Write เปลี่ยนเป็น Writer
- Employ เปลี่ยนเป็น Employer