ปก suffix-noun

คำศัพท์ทั้งหมดแปลว่าเน้นจำง่ายต่างไปจากคำเดิม 10 Suffix Noun

noun Suffix

Noun suffix คือ

Noun suffix เป็นคำต่อท้ายที่เติมต่อหลังคำนามเพื่อสร้างคำใหม่ที่มีความหมายแตกต่างไปจากคำเดิม ตัวอย่างของ Noun suffix ได้แก่ -ness, -hood, -ism, -tion, -ment เป็นต้น ซึ่งแต่ละ suffix จะมีความ     หมายและการใช้งานที่แตกต่างกันไป การใช้ noun suffix จะช่วยเพิ่มความหมายหรือเปลี่ยนแปลงความหมายของคำนามเดิมได้ ยกตัวอย่างเช่น happy เป็นคำกริยาที่แสดงความสุข แต่เมื่อเติม suffix -ness เข้าไปจะกลายเป็นคำนาม happiness ที่แสดงถึงสภาวะของความสุข ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างจากคำว่า happy โดยไม่ต้องเปลี่ยนคำอื่นในประโยค.

Noun Suffix คือ

Noun suffix คําศัพท์

Noun suffix คือ คำเติมท้ายที่เอาไว้เปลี่ยนคำคุณศัพท์ (adjective) หรือคำกริยา (verb) เป็นคำนาม (noun) โดยมักใช้ในภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำนั้น บางครั้งนิยมใช้คำเติมเหล่านี้เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์และความตั้งตรงให้กับคำนามมีดังนี้

  • -ness, -ity, -tion, -ment, -er, -ism, -tion, -ation, -ition, -ification, -sion, -al, -ance/ -ence
  • -ee/-e, -an/ -n, -ant, -ent, -er/ or, -ese, -ess, -ure
  • -ism/ ist, -ty/ -ity, -ness, -y/ ery, -ing, -dom, -hood, -ship

Noun suffix examples ตัวอย่าง  

Noun suffix คือ คำเติมท้ายที่ใช้เพิ่มความหมายให้กับคำกริยา โดยทำให้เกิดคำนามใหม่ขึ้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่หลังคำศัพท์ ตัวอย่าง Noun suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่

  • -ment เช่น development, enjoyment, government
  • -ness เช่น happiness, darkness, kindness
  • -er/-or เช่น teacher, actor, author
  • -ance/-ence เช่น importance, confidence, influence
  • -dom เช่น kingdom, freedom, wisdom

คำศัพท์ Noun Suffix

Adjective suffix 

เหตุผลที่ใช้ Adjective suffix เพื่อเพิ่มคุณลักษณะให้กับคำคุณศัพท์ หรือเปลี่ยนคำนามเป็นคำคุณศัพท์ เพื่อให้เข้าใจความหมายของคำได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นตัวอย่าง Adjective suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่

  • -ful เช่น beautiful, careful, playful
  • -less เช่น hopeless, careless, homeless
  • -ish เช่น childish, girlish, reddish
  • -ous เช่น famous, dangerous, gorgeous
  • -al เช่น national, personal, professional

คำศัพท์ Adjective suffix

Verb suffix

Verb suffix คือ คำเติมท้ายที่ใช้เปลี่ยนคำนามหรือคำคุณศัพท์เป็นคำกริยา หรือเพิ่มความหมายให้กับคำกริยาเดิม โดยส่วนใหญ่จะอยู่หลังคำศัพท์ ตัวอย่าง Verb suffix ที่ใช้ในภาษาอังกฤษได้แก่

  • -ate เช่น activate, calculate, participate
  • -en เช่น broaden, strengthen, weaken
  • -ize/-ise เช่น analyze, criticize, organize
  • -ate เช่น activate, celebrate, educate
  • -en เช่น brighten, deepen, heighten

คำศัพท์ Verb suffix

Adverb suffix  

เหตุผลที่ใช้ Adverb suffix เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ เพื่อให้เข้าใจความหมายของประโยคได้ชัดเจน และช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

  • -ly เช่น quickly, happily, beautifully
  • -ward เช่น forward, backward, homeward
  • -wise เช่น clockwise, lengthwise, likewise
  • -wards เช่น upwards, onwards, downwards
  • -fully เช่น carefully, successfully, thoughtfully

คำศัพท์ Adverb suffix

Noun suffix คําศัพท์ และวิธีการใช้ suffix ที่เป็น noun

  • การใช้ -ment อ่านว่า เม้นท์ เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix ซึ่งจะสามารถเติมหลังคำกริยานั้น ให้เปลี่ยนเป็นคำนาม ตัวอย่างเช่น
    • Amuse เปลี่ยนเป็น Amusement
    • Achieve เปลี่ยนเป็น Achievement
    • Govern เปลี่ยนเป็น Government
    • Agree เปลี่ยนเป็น Agreement
    • Develop เปลี่ยนเป็น Development
  • การใช้ –tion อ่านว่า ชั่น เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix มักจะนำลงท้ายคำกริยาที่ออกเสียงเป็นคำว่า เอจ ดังนั้น เมื่อเติม tion จึงอ่านเป็น เอชั่นหรืออีชั่น ตัวอย่างเช่น
    • Complete เปลี่ยนเป็น Completion
    • Appreciate เปลี่ยนเป็น Appreciation
    • Violate เปลี่ยนเป็น Violation

ซึ่งมีคำกริยาที่ไม่ต้องลงท้าย เอ หรือ อี แต่เติม -tion ก็มีเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

  • Attend เปลี่ยนเป็น Attention
  • Collect เปลี่ยนเป็น Collection
  • Produce เปลี่ยนเป็น Production
  • การใช้ –ation อ่านว่า เอชั่น เป็นการเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยเน้นการออกเสียงพยัญชนะตัวหน้ารวมกับ เอ และเติมคำว่า ชั่น ซึ่งเน้นเสียงหนักในการออกเสียงตรงตัว เอ มากกว่า ชั่น ตัวอย่างเช่น
    • Adapt เปลี่ยนเป็น Adaptation
    • Observe เปลี่ยนเป็น Observation
    • Expect เปลี่ยนเป็น Expectation
    • Transport เปลี่ยนเป็น Transportation
  • การใช้ –ition อ่านว่า อิชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยเน้นการออกเสียงพยางค์ก่อน อิชั่น และจะต้องผสมเสียงของตัวพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ากับ อิ และเติมคำว่า ชั่น ต่อท้าย ตัวอย่างเช่น
    • Repeat เปลี่ยนเป็น Repetition
    • Expose เปลี่ยนเป็น Exposition
    • Compete เปลี่ยนเป็น Competition
  • การใช้ –ification อ่านว่า อิฟิเคชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -ify เปลี่ยนรูปให้เป็น -ification แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกและพยางค์ก่อนลงท้ายชั่นอีกเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น
    • Amplify เปลี่ยนเป็น Amplification
    • Beautify เปลี่ยนเป็น Beautification
    • Classify เปลี่ยนเป็น Classification
  • การใช้ –sion อ่านว่า ชั่น การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -deต้องเปลี่ยนรูป โดยตัด -de ออกและเติม -sion แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกหรือพยางค์ก่อนชั่น ตัวอย่างเช่น
    • Decide เปลี่ยนเป็น Decision
    • Divide เปลี่ยนเป็น Division
    • Conclude เปลี่ยนเป็น Conclusion
    • Invade เปลี่ยนเป็น Invasion
  • การใช้ –sion ที่เติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย –se, t ก็ทำได้ ต้องเปลี่ยนรูป โดยตัด –se, t ออกและเติม -sion แทน ซึ่งจะเน้นการออกเสียงหนักพยางค์แรกหรือพยางค์ก่อนชั่น ตัวอย่างเช่น
    • Revise เปลี่ยนเป็น Revision
    • Permit เปลี่ยนเป็น Permission
    • Omit เปลี่ยนเป็น Omission
  • การใช้ –al อ่านว่า ออล์ การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix โดยจะเติมในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย e, w, และ y ต้องเปลี่ยนรูป และคำส่วนมากจะตัด e, w, และ y และเติม al ต่อท้ายได้เลย ยกเว้นตัว y จะต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม al ตัวอย่างเช่น
    • Arrive เปลี่ยนเป็น Arrival
    • Refuse เปลี่ยนเป็น Refusal
    • Survive เปลี่ยนเป็น Survival
    • Withdraw เปลี่ยนเป็น Withdrawal
    • Deny เปลี่ยนเป็น Denial
    • Try เปลี่ยนเป็น Trial
  • การใช้ –ance, -ence อ่านว่า เอ็นซ์ การเปลี่ยนจาก verb to noun suffix ตัวอย่างเช่น
    • Resist เปลี่ยนเป็น Resistance
    • Assist เปลี่ยนเป็น Assistance
    • Differ เปลี่ยนเป็น Difference
    • Depend เปลี่ยนเป็น Dependence
    • Appear เปลี่ยนเป็น Appearance
    • Prefer เปลี่ยนเป็น Preference
  • การใช้ –ship อ่านว่า ชิฟ การเปลี่ยนจาก คำนาม (common noun) เพื่อให้เป็นอาการนาม (Abstract noun) หรือเพื่อแสดงความชำนาญในอาชีพและมีทักษะเฉพาะ ตัวอย่างเช่น
    • Friend เปลี่ยนเป็น Friendship
    • Owner เปลี่ยนเป็น Ownership
    • King เปลี่ยนเป็น Kingship
    • Member เปลี่ยนเป็น Membership
    • Author เปลี่ยนเป็น Authorship
    • Musician เปลี่ยนเป็น Musicianship
    • Scholar เปลี่ยนเป็น Scholarship
  • การใช้ –ee, -e อ่านว่า อี การเปลี่ยนจาก คำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำนาม เพื่อให้กลายเป็นผู้กระทำเฉพาะเรื่องนั้น หรืออาจจะใช้กับลักษณะของผู้ที่ได้ทำสิ่งนั้นผ่านพ้นไปแล้วเป็นตำนาน ตัวอย่างเช่น
    • Absent (adj.) เปลี่ยนเป็น Absentee
    • Devote (v.) เปลี่ยนเป็น Devotee
    • Trust (v.) เปลี่ยนเป็น Trustee
  • การใช้ –er, -or อ่านว่า เอ้อร์ การเปลี่ยนจาก คำกริยาปกติกลายเป็นผู้กระทำกริยานั้นโดยเฉพาะ มักจะใช้กับอาชีพก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
    • Run เปลี่ยนเป็น Runner
    • Write เปลี่ยนเป็น Writer
    • Employ เปลี่ยนเป็น Employer

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com

บทความแนะนำ หมวดหมู่: วัยรุ่น
จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 170726: 96