ปก บริหารเวลาในชีวิต ประจําวัน

10 บริหารเวลา ในชีวิตประจําวันเทคนิคความสำเร็จที่ไม่รู้?

การจัดการเวลาและการวางแผนในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การจัดการเวลาและการวางแผนในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมาก ดังนั้นนี่คือบางเคล็ดลับเพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลาและวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ

10 เคล็ดลับการจัดการเวลา

  1. สร้างรายการที่ต้องทำ จัดทำรายการที่ต้องทำที่ชัดเจนโดยระบุงานที่ต้องทำในแต่ละวันหรือสัปดาห์ เรียงลำดับงานตามความสำคัญและความเร่งด่วน เมื่อคุณทำงานตามรายการที่สร้างขึ้นเป็นตัวชี้วัด คุณจะมีความมั่นใจในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. ใช้เทคนิคการจัดการเวลา เทคนิคที่มีประสิทธิภาพเช่น Time blocking หรือ Pomodoro Technique สามารถช่วยให้คุณรับมือกับงานที่ซับซ้อนหรือยากลำบากได้ดีขึ้น และให้การพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อความสมดุลในการใช้เวลา

  3. กำหนดเป้าหมายรอบเวลา กำหนดเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับงานหรือกิจกรรมที่ต้องทำในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น “จะทำงานเสร็จก่อนเวลา 1700” หรือ “จะออกกำลังกายสำหรับ 30 นาทีทุกวัน” การกำหนดเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีการวางแผนที่ชัดเจน

  1. ใช้เครื่องมือช่วยการจัดการเวลา ในยุคดิจิทัล เรามีเครื่องมือและแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้เราจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Google Calendar, Todoist, Trello ฯลฯ ใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อสร้างรายการที่ต้องทำ กำหนดเวลาและกำหนดกำหนดส่งงาน และติดตามความคืบหน้าของงานของคุณ

  2. ลดสิ่งที่สูญเสียเวลา ระวังการสูญเสียเวลาในกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์หรือไม่สำคัญ ทำความเข้าใจและลดการเสียเวลาในการทำภารกิจที่ไม่จำเป็น เช่นการท่องเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง, การดูวิดีโอหรือเกมส์ออนไลน์ อย่างไรก็ตามให้แนวทางเป็นการพักผ่อนต้องมีอยู่ในทำนองนั้น เพื่อให้มีสมดุลในการใช้เวลา

  3. ให้เวลาสำหรับการพักผ่อน การให้เวลาสำหรับการพักผ่อนมีความสำคัญเพื่อให้คุณมีพลังและสมดุลในชีวิตประจำวัน กำหนดเวลาสำหรับการพักผ่อน เช่น การอ่านหนังสือ, การออกกำลังกาย, การฟังเพลง หรือกิจกรรมที่ชอบ การพักผ่อนสามารถช่วยให้คุณต่อสู้กับความเครียดและสร้างสมดุลในชีวิตของคุณได้

  4. ทำความเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเวลาและวางแผนในชีวิตประจำวัน เพราะการออกกำลังกายส่งผลต่อสมดุลของร่างกายและสมองที่สำคัญต่อการทำงานและการเรียนรู้ นี่คือบางเคล็ดลับเพื่อช่วยให้คุณสามารถคงไขมันตัวและความสุขในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง

  1. ตั้งตารางการออกกำลังกาย กำหนดเวลาในแต่ละวันหรือสัปดาห์สำหรับการออกกำลังกาย และปฏิบัติตามตารางนั้นเป็นอย่างเคร่งครัด ตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น การเดินทางไปยังสนามกีฬาหรือศูนย์ออกกำลังกายในบริเวณใกล้เคียงบ้านของคุณ

  2. ทำกิจกรรมที่คุณชอบ การเลือกกิจกรรมที่คุณทำแล้วรู้สึกสนุกและตื่นเต้น จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการออกกำลังกายและคงที่ต่อสู้ ลองหากิจกรรมที่คุณรักในการเล่นกีฬา เต้นแอโรบิก ยูโรบิค หรือแม้กระทั่งยากลำบากเช่นการวิ่งแข่งหรือยิงธนู

  3. ออกกำลังกายในช่วงเวลาที่เหมาะสม ค้นหาระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเช้าหรือเย็น เลือกเวลาที่คุณรู้สึกมีพลัง

การบริหารเวลาในชีวิต ประ จํา วัน

การบริหารเวลาในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับงานและกิจกรรมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้เวลาให้เต็มที่ได้ด้วยประสิทธิภาพ สรุปการบริหารเวลาในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

  1. ตั้งเป้าหมายและวางแผน การตั้งเป้าหมายช่วยให้เรามีแนวทางที่ชัดเจนในการใช้เวลา เขียนลงในปฏิทินหรือแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อวางแผนกิจกรรมต่างๆ และกำหนดเวลาให้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรม

  2. กำหนดลำดับความสำคัญ จัดลำดับความสำคัญของงานและกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เราใช้เวลาให้เหมาะสมกับงานที่สำคัญที่สุด โดยสามารถใช้วิธีการเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ (to-do list) หรือการใช้เทคนิคเช่น การใช้หลักการ 80/20 (Pareto Principle) ซึ่งเน้นการใช้เวลากับกิจกรรมที่สร้างผลสำคัญมากที่สุด

  3. ระบบการจัดการเวลา ใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเวลา เช่น การใช้แอปพลิเคชันเตือนเวลา เพื่อช่วยเตือนเวลาในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ และสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การใช้เข็มขัดเวลา (timer) เพื่อจำกัดเวลา

  1. การจัดเวลาแบบเป็นช่วง แทนที่จะทำงานโดยต่อเนื่องตลอดเวลา ควรแบ่งเวลาเป็นช่วงๆ เพื่อให้ได้รับพักผ่อนและลดความเครียด ตั้งเวลาให้มีช่วงพักเพื่อเติมพลังและยังช่วยให้คุณมีความสมดุลในชีวิต

  2. การจัดกิจกรรมที่มีความเหมาะสม ปรับตัวให้เหมาะสมกับกิจกรรมและงานที่ต้องทำ โดยให้ความสำคัญและความชำนาญของคุณเข้ามาเป็นตัวแบ่งกลุ่มงาน โดยการใช้เทคนิคเช่น การกำหนดเวลาในการทำงานตามเทคนิค Pomodoro ซึ่งจะทำงานในช่วงเวลาที่กำหนดไว้แล้วพักก่อนที่จะกลับมาทำงานอีกครั้ง

  3. การเตรียมความพร้อมล่วงหน้า วางแผนก่อนเริ่มการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ เช่น ตรวจสอบเครื่องมือและวัตถุดิบที่จำเป็น เพื่อป้องกันการขัดแย้งและสูญเสียเวลาโดยไม่จำเป็น

  4. การบริหารเวลาส่วนตัว หากคุณใช้เวลาส่วนตัวให้เหมาะสม โดยการมีเวลาสำหรับการพักผ่อน เรียนรู้ และทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ จะช่วยเพิ่มความสุขและความพึงพอใจในชีวิตประจำวันของคุณ

  5. การปรับตัวและปรับเปลี่ยน เพื่อให้การบริหารเวลาในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ เนื่องจากสถานการณ์และความต้องการของเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นต่อไปนี้คือบางข้อแนะนำเพิ่มเติมในการบริหารเวลาในชีวิตประจำวัน

  1. การติดตามและประเมินผล สร้างนิสัยในการติดตามและประเมินผลของการใช้เวลาของคุณ เช่น สร้างรายการสิ่งที่ทำได้ในแต่ละวันและตรวจสอบว่าคุณปฏิบัติตามแผนหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องมือหรือแอปพลิเคชันในการติดตามเวลา และสถิติการใช้เวลาของคุณเพื่อให้คุณมีการปรับปรุงและปรับปรุงการบริหารเวลาของคุณได้ต่อไป

  2. การเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยน ไม่เสมอไปต้องปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้ เมื่อเกิดสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด คุณควรเป็นคนยืดหยุ่นและสามารถปรับแผนเพื่อเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้ ยอมรับว่าบางครั้งอาจต้องทำสิ่งที่สำคัญก่อนเพื่อให้สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การร่วมมือและการรับความช่วยเหลือ บางครั้งการบริหารเวลาในชีวิตประจำวันอาจเป็นภาระหนักและยากลำบาก ดังนั้นคุณควรเป็นผู้ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกสิ่งที่คุณต้องทำเองได้ สามารถรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ เช่น สร้างระบบการทำงานที่ร่วมมือกันในครอบครัวหรือทีมงาน เพื่อให้สามารถแบ่งหน้าที่และโอกาสในการรับความช่วยเหลือ

  2. การตัดสินใจและการกำหนดลำดับความสำคัญ บางครั้งเราอาจมีงานหลายอย่างที่ต้องทำในเวลาเดียวกัน ในกรณีนี้คุณควรพิจารณาและตัดสินใจว่างานใดมีความสำคัญและเร่งด่วนที่สุด และกำหนดลำดับความสำคัญเพื่อให้คุณสามารถจัดการและใช้เวลาให้เหมาะสมกับงานที่สำคัญที่สุด

  3. การสร้างเสริมความสมดุล ความสมดุลในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความสุขและความพึงพอใจ ไม่ใช่เพียงแค่การทำงานหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานเท่านั้น คุณควรมีเวลาสำหรับครอบครัว สันทนาการ การออกกำลังกาย การพักผ่อนและการศึกษา เพื่อให้คุณมีการดูแลตนเองและชีวิตที่มีความสมดุลที่ดี

  1. การปรับปรุงและปรับแต่ง การบริหารเวลาในชีวิตประจำวันเป็นกระบวนการที่ต้องปรับปรุงและปรับแต่งอยู่เสมอ เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาและพัฒนาวิธีการใช้เวลาให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการเวลา ตลอดจนทบทวนและปรับปรุงแผนงานเป็นระยะเวลา เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และเป้าหมายของคุณในชีวิตประจำวัน

  2. การทบทวนและปรับปรุง สำคัญมากที่จะทบทวนวิธีการบริหารเวลาของคุณเป็นประจำ เช็คว่าแผนงานและวิธีการทำงานที่คุณใช้ในปัจจุบันยังเหมาะสมหรือไม่ สำรวจดูว่าคุณสามารถทำได้ดีขึ้นหรือมีพื้นที่ในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล

  3. การยึดติดกับแผนหรือตารางเวลา ควรรักษาความเอาใจใส่ในการยึดตามแผนหรือตารางเวลาที่คุณกำหนดไว้ รักษาความสม่ำเสมอในการทำงานและกิจกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเบียดเสียดสีใจและความขัดแย้งในการจัดการเวลา

  1. การให้เวลาสำหรับการพักผ่อนและการเติมพลัง อย่าลืมให้เวลาสำหรับการพักผ่อนและการเติมพลัง เพื่อให้คุณมีพลังและความกระปรี้กระเปร่าในการทำงานและกิจกรรมต่างๆ หากคุณมีเวลาว่างให้นำมาใช้ในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและจิตใจ เช่น การอ่านหนังสือที่ชื่นชอบ เล่นกีฬา ฟังเพลง หรือทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ

  2. การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ตลอดเวลาควรเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดการเวลา อ่านหนังสือหรือเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการเวลา โดยสามารถเข้าร่วมอบรม หรือใช้เทคโนโลยีเพื่อเรียนรู้ได้ เช่น คอร์สออนไลน์หรือแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเวลา

  3. การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพ เช่น ใช้แอปพลิเคชันเพื่อตั้งเวลาและแจ้งเตือน เช่น ปฏิทินออนไลน์ แอปพลิเคชันการจัดการงาน และเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามและจัดการกิจกรรมต่างๆ ได้โดยง่าย

  1. การสร้างนิสัยและระเบียบวินัย สร้างนิสัยในการใช้เวลาอย่างมีระเบียบวินัย รักษาความตรงต่อเวลา และปฏิบัติตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังสร้างระเบียบวินัยในการจัดสถานที่ทำงานหรือที่ทำกิจกรรม เพื่อให้คุณมีพื้นที่ทำงานที่เรียบร้อยและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์

บริหารเวลาในชีวิต ประจําวัน 02

การบริหารจัดการเวลา time management

การบริหารจัดการเวลา (Time Management) เป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราสามารถใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลิตผลที่ดี โดยสรุปสั้นๆ สิ่งที่ควรทำเพื่อการบริหารจัดการเวลาได้ดีมีดังนี้

  1. กำหนดเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและระบุลำดับความสำคัญของงาน เพื่อให้ทราบว่าต้องทำอะไรก่อนและแบ่งเวลาตามความสำคัญนั้นๆ

  2. วางแผน สร้างแผนการทำงานที่เหมาะสมโดยระบุเวลาที่จะใช้กับแต่ละงาน คำนึงถึงความเร่งด่วนและระยะเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละกิจกรรม

  3. ลดขยายเวลา ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพโดยลดการสลับงานหรือการตัดสินใจที่ไม่จำเป็น รวมถึงการลดเวลาในกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์หรือสร้างความเป็นอะไรของเสีย

  4. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว มีการกำหนดเป้าหมายที่ระยะสั้นและระยะยาว โดยสามารถแบ่งงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านี้

  5. การจัดกิจกรรมแบบเป็นช่วงเวลา ใช้วิธีการจัดกิจกรรมแบบช่วงเวลา (Time Blocking) เพื่อกำหนดเวลาในการทำงานในแต่ละกิจกรรม และหลีกเลี่ยงการรบกวนจากกิจกรรมอื่น

  1. ตรวจสอบและปรับปรุง ตรวจสอบการใช้เวลาของคุณเป็นระยะเวลาต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบว่าวิธีการทำงานและการจัดการเวลาของคุณมีประสิทธิภาพหรือไม่ และปรับปรุงในส่วนที่จำเป็น

  2. กำจัดสิ่งที่เป็นขยะเวลา ละเว้นหรือลดการใช้เวลาในกิจกรรมที่ไม่สร้างผลลัพธ์หรือไม่สำคัญ เช่น การเล่นเกมหรือเล่นโซเชียลมีเดียในช่วงเวลาที่สำคัญ

  3. ให้เวลาสำหรับพักผ่อน มอบเวลาให้กับการพักผ่อนและการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณมีพลังงานและความสามารถในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  4. ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยี ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการบริหารจัดการเวลา เช่น แอปพลิเคชันการจัดการเวลาหรือเครื่องมือการตั้งเวลา

  5. รักษาความสมดุล รักษาความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ให้เวลาเพียงพอสำหรับครอบครัว พักผ่อน และความสนใจที่อื่นที่สำคัญสำหรับคุณ

การบริหารจัดการเวลาเป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝนและปรับปรุงเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถใช้เวลาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี

เทคนิคการบริหารเวลา เพื่อความสำเร็จ

เพื่อความสำเร็จในการบริหารจัดการเวลา นี่คือเทคนิคสำคัญที่สามารถสรุปได้อย่างสั้นๆ

เทคนิคการบริหารเวลา

  1. การกำหนดเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและระบุลำดับความสำคัญ เพื่อให้คุณมีแนวทางในการจัดสิ่งสำคัญในชีวิตและการทำงาน

  2. การวางแผน วางแผนกิจกรรมที่ต้องทำในระยะเวลาที่กำหนด แบ่งเวลาตามความสำคัญและความเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เวลาเปล่าผ่านไปโดยไม่ได้ผลลัพธ์

  3. การใช้เทคโนโลยี ใช้เครื่องมือและแอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการเวลา เช่น ตั้งเวลาแจ้งเตือน หรือใช้แอปพลิเคชันการวางแผนและจัดการงาน

  4. การละเว้นกิจกรรมที่ไม่สำคัญ ให้ความสำคัญกับงานที่สำคัญและมีค่า และละเว้นหรือลดเวลาในกิจกรรมที่ไม่สร้างผลลัพธ์หรือไม่สำคัญ

  5. การบริหารเวลาบุคคล ให้เวลาสำหรับการพักผ่อน การฝึกออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ เพื่อให้คุณมีพลังงานและสมดุลในชีวิต

  6. การปรับปรุงและการปรับแผน ตรวจสอบและปรับปรุงแผนงานเป็นระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการในชีวิตและงาน

  1. การเรียนรู้และปรับปรุง เรียนรู้เทคนิคและวิธีการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเวลา และปรับปรุงกระบวนการตามประสิทธิผลที่ได้รับ

  2. การสร้างนิสัยที่ดี สร้างนิสัยที่มุ่งไปที่การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทำงานตรงต่อเวลา การปฏิบัติตามกำหนด และการจัดเวลาให้เหมาะสม

  3. การบริหารจัดการสิ่งที่มีอัตราสูง ใช้เทคนิคการบริหารจัดการเวลาเฉพาะบางส่วนสำหรับงานที่มีอัตราความสำคัญและความเร่งด่วนสูง เพื่อให้สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. การรักษาความสมดุล รักษาความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ให้เวลาเพียงพอสำหรับครอบครัว การพักผ่อน และความสนใจที่อื่นที่มีความสำคัญในชีวิตของคุณ

เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตของคุณ

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพสามารถสรุปได้ดังนี้

  1. กำหนดเป้าหมายและลำดับความสำคัญ ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและระบุลำดับความสำคัญของงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการและเน้นทำงานที่สำคัญก่อน

  2. วางแผนการทำงาน วางแผนเป็นช่วงเวลาเพื่อกำหนดเวลาในการทำงานในแต่ละกิจกรรม แบ่งเวลาตามความสำคัญและเลือกใช้เทคนิคการวางแผนที่เหมาะสม

  3. ลดสิ่งที่ไม่สำคัญ ละเว้นหรือลดเวลาในกิจกรรมที่ไม่สร้างผลลัพธ์หรือไม่มีค่าความสำคัญ โดยใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพในงานที่สำคัญ

  4. ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือช่วย ใช้แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือเพื่อช่วยในการจัดการเวลา เช่น ตั้งเวลาแจ้งเตือนหรือใช้เทคนิคการบริหารจัดการเวลาที่เหมาะสม

  5. จัดเวลาสำหรับพักผ่อน ห้ามลืมให้เวลาสำหรับการพักผ่อนและการฟื้นฟู อย่าทำงานเรียบเรียงไปเรื่อยๆ แต่ให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนเพื่อเติมพลัง

  6. ปรับแผนและปรับปรุง ตรวจสอบและปรับแผนงานตามความเปลี่ยนแปลงและความต้องการให้สอดคล้อง

  1. ตรวจสอบและปรับปรุง ตรวจสอบว่าการบริหารจัดการเวลาของคุณมีประสิทธิภาพหรือไม่ และปรับปรุงในส่วนที่ต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เวลา

  2. การใช้เทคนิคพิเศษ ใช้เทคนิคเช่น Pomodoro Technique (เทคนิคโปโมโดโร) เพื่อให้การทำงานเป็นช่วงเวลาแบ่งเป็นรอบๆ ระหว่างการทำงานและการพักผ่อน

  3. รับผิดชอบต่อเวลา ทำงานตามกำหนดและรับผิดชอบต่อเวลา ไม่ล่าช้าหรือมองข้ามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้

  4. สร้างนิสัยที่มีประสิทธิภาพ พัฒนานิสัยการทำงานที่มุ่งไปที่การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การองค์กระเหรียง การใช้เวลาที่ว่างให้เกิดประโยชน์

เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จและความเป็นไปได้ที่ดีในทุกด้านของชีวิตของคุณ

บริหารเวลาในชีวิต ประจําวัน 01

การบริหารเวลาในการเรียน

เมื่อต้องการบริหารเวลาในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถออกแบบกลยุทธ์ต่อไปนี้

  1. กำหนดเป้าหมายการเรียน กำหนดเป้าหมายการเรียนที่ชัดเจนและระบุว่าต้องการทำอะไรในระยะเวลาที่กำหนด โดยคำนึงถึงความสำคัญและความเร่งด่วนของวิชาที่ต้องการเรียน

  2. วางแผนการเรียน วางแผนกิจกรรมการเรียนเพื่อแบ่งเวลาให้เหมาะสมกับวิชาที่ต้องการเรียน ตรวจสอบตารางเรียนและกำหนดเวลาสำหรับการอ่านหนังสือ เขียนบทความ หรือทบทวนเนื้อหา

  3. การใช้เทคโนโลยีช่วย ใช้แอปพลิเคชันการจัดการเวลาหรือเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยในการจัดการสิ่งต่างๆ เช่น ตั้งเวลาแจ้งเตือน หรือใช้เครื่องมือการวางแผนและจัดการงานที่ออนไลน์

  4. การจัดเวลาเรียน แบ่งเวลาเรียนเป็นช่วงๆ โดยกำหนดช่วงเวลาที่มีสภาพจิตใจสดชื่นและกระตือรือร้นสูงสุดสำหรับการเรียนวิชาที่ยากหรือสำคัญที่สุด

  5. การสร้างนิสัยการเรียน สร้างนิสัยที่มุ่งไปที่การเรียนอย่างต่อเนื่อง ตั้งตารางการเรียนและการศึกษาที่เป็นประจำ เช่น ตั้งเวลาทบทวนเนื้อหาทุกวัน

  1. การใช้เทคนิคการบริหารเวลา ใช้เทคนิคการบริหารเวลาเช่น Pomodoro Technique หรือ Time Boxing เพื่อแบ่งช่วงเวลาการเรียนออกเป็นช่วงเวลาเล็กๆ และให้พักผ่อนในช่วงเวลาที่กำหนด

  2. การละเว้นสิ่งที่ไม่สำคัญ ละเว้นหรือลดเวลาในกิจกรรมที่ไม่ส่งผลต่อการเรียน เช่นการใช้เวลาในสื่อสังคมออนไลน์หรือการทำงานไม่เกี่ยวข้อง

  3. การใช้แหล่งข้อมูลและเครื่องมือการเรียนรู้ ใช้แหล่งข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อการเรียน เช่น หนังสือเรียน วิดีโอการสอนออนไลน์ และแอปพลิเคชันการเรียนรู้ เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. การระบายออกมา ระบายความรู้สึกหรือแรงกดดันที่เกี่ยวข้องกับการเรียน โดยทำกิจกรรมที่ช่วยให้ความรู้สึกสบายตัว เช่นการออกกำลังกายหรือการทำผลงานที่สนุกสนาน

  5. การรีวิวและการปรับปรุง รีวิวการใช้เวลาในการเรียน ตรวจสอบว่าสามารถปรับปรุงรูปแบบการบริหารเวลาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้อย่างไร และปรับปรุงตามความต้องการให้เหมาะสม

โดยการออกแบบการบริหารเวลาในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างนิสัยที่มุ่งมั่น

5 วิธีการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพที่คุณสามารถใช้ได้มีดังนี้

วิธีการบริหารเวลา

  1. กำหนดเป้าหมายและลำดับความสำคัญ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานและระบุความสำคัญของงาน เพื่อให้คุณสามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  2. ใช้เทคนิคการแบ่งช่วงเวลา ใช้เทคนิคเช่น Pomodoro Technique เพื่อแบ่งเวลาการทำงานเป็นช่วงเวลาเล็กๆ โดยทำงานไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่กำหนดแล้วพักผ่อนในช่วงเวลาที่กำหนด

  3. ใช้เครื่องมือและแอปพลิเคชันช่วย ใช้แอปพลิเคชันการจัดการเวลาหรือเครื่องมือการวางแผนออนไลน์ เช่น Google Calendar, Todoist, Trello เพื่อช่วยในการติดตามงานและการจัดการเวลา

  4. ตั้งค่าความสมดุล ระหว่างการทำงานและการพักผ่อน ให้ตั้งค่าเวลาสำหรับพักผ่อนและการฟื้นฟูให้เพียงพอ เพื่อที่จะมีพลังงานและสมดุลในการทำงาน

  5. ระเบียบความสัมพันธ์กับเวลา สร้างนิสัยในการทำงานแบบเป็นระเบียบ เช่น การให้เวลาเพียงพอสำหรับงานที่สำคัญ การแยกเวลาสำหรับการตอบกลับอีเมลหรือการประชุม และการเลือกเวลาที่เหมาะสม

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com